รีวิวDrifting Home เรื่องราวความทรงจำของที่อยู่ในสมัยเด็กที่ชวนให้เธอต้องกลับเข้าไปในตึกเพื่อทวนความทรงจำวัยเด็กที่แสนอบอุ่นอีกครั้ง ซึ่งอนิเมะเรื่องนี้เป็นอนิเมะที่ออกแนวแฟนตาซี และผสมผสานกับความอบอุ่นจากครอบครัว บอกกับความผจญภัยที่ใส่เข้ามาในเรื่องให้ชวนน่าติดตาม เรามาดูกันว่าเรื่องนี้จะมีเรื่องราวแฟนตาซีดีแค่ไหน สามารถเข้ารับชมหนังฟรี หนังดี ๆ สนุก ๆ ได้เลยที่ ดูหนังใหม่

รีวิวDrifting Home อนิเมะ แนวแฟนตาซี เรื่องราวของตึกปริศนาชวนให้ติดตาม

รีวิวDrifting Home อนิเมะ แนวแฟนตาซี เรื่องราวของตึกปริศนาชวนให้ติดตาม

รีวิวDrifting Home เรื่องย่อ

ขอเริ่มที่เรื่องราวของเรื่องนี้ รีวิวบ้านล่องลอย ก่อนเลยนะ เป็นเรื่องราวของเด็กก่อนวัยรุ่นที่อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่ในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นแอนิเมชั่นแฟนตาซีของญี่ปุ่นเกี่ยวกับกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ล่องลอยอยู่ในทะเลในอพาร์ตเมนต์ที่มีผีสิง

เพราะบทเรียนที่ได้เรียนรู้และเพื่อนที่ได้รับระหว่างทางไม่เคยน่าสนใจหรือพัฒนาได้ดีเท่าหลักฐานสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ กลุ่มเพื่อนที่แน่นแฟ้นหายไปในอวกาศโดยไม่มีอาหารและน้ำจืด หลังจากน้ำท่วมฉับพลันส่งพวกเขาและอพาร์ทเมนต์คาโมโนะมิยะที่ถูกทิ้งร้างลงสู่มหาสมุทรที่กว้างใหญ่และอาจไร้ขอบเขต

ซึ่งเด็กๆ ที่นำโดยหัวหน้ากลุ่มโดยพฤตินัย โคสุเกะ หรือ มุทสึมิ ทามูระ และเพื่อนสมัยเด็กของเขา นัตสึเมะ หรือ อาซามิ เซโตะ ได้ค้นพบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่าพวกเขาไม่ควรเห็นแก่คนที่รัก แต่ก็ควรรู้ว่าเมื่อใดควรปล่อยมือ ถ้าหากท่านชื่นชอบการรีวิวของเราก็สามารถติดตามการรีวิวอนิเมะเรื่องอื่น ๆ ได้เลย ที่ อนิเมะผจญภัย อ่านฟรี ไม่เสียค่าบริการ

แต่ก็น่าเสียดายที่การตั้งค่าเริ่มต้นของภาพยนตร์นั้นน่าสนใจกว่าตัวเอกที่มีฟองสบู่เหล่านี้ โทนแสงจะกระทบไปทั่ว ซึ่งทำให้การปะทุของภาพยนตร์หายนะเป็นครั้งคราวนั้นอันตรายยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่นี้เกี่ยวกับเด็กกลุ่มหนึ่งที่ตกอยู่ในความต่อเนื่องของกาลอวกาศ และมันก็ฟังดูไม่ดีเท่าไหร่

รีวิวDrifting Home เรื่องย่อ

เลยทำให้แฟน ๆ มังงะอาจพบว่าเนื้อหาหลักของเรื่องนี้ เกิดความรู้สึกชวนให้นึกถึง The Drifting Classroom ซึ่งเป็นการ์ตูนสยองขวัญที่สร้างความสับสนและชวนจินตนาการของ Kazuo Umezu

ในมังงะ บ้านล่องลอย ของ Umezu นักเรียนชั้นประถมศึกษากลุ่มหนึ่งต้องหลุดออกจากห้วงเวลาหลังจากหายนะที่อธิบายไม่ได้ส่งโรงเรียนของพวกเขาพุ่งเข้าสู่อนาคตที่เลวร้ายของเรื่องนี้ ค่อนข้างเบาสมองกว่ามาก และมีแมงมุมกลายพันธุ์และการตรึงกางเขนเด็กน้อยกว่า

และโคสุเกะจำใจติดตามไทอิชิ หรือ ยูมิโกะ โคบายาชิ เพื่อนขี้สงสัยและยูซูรุ หรือ ไดกิ ยามาชิตะ และยูซูรุ หรือ ไดกิ ยามาชิตะ ในโครงการ Kamonomiya ที่มีอายุ 60 ปีอย่างไม่ใส่ใจ
ทางโคสุเกะเป็นตัวละครเหล่านี้ที่มีพัฒนาการดีที่สุด ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขารักคนที่รักมากกว่าเพื่อนร่วมทาง เช่น คุณปู่ยาสุจิ หรือ บิน ชิมาดะ ผู้ล่วงลับไปเมื่อเร็วๆ นี้ และแม่ที่ทำงานหนักเกินไป ซาโตโกะ หรือ นานะ มิซูกิ โคสุเกะยังคงพาเพื่อน ๆ
ได้สำรวจอพาร์ทเมนต์คาโมโนะมิยะ แม้จะมีความเชื่อมโยงอาคารกับยาสุจิ ผู้เคยพักอาศัยอยู่ก็ตาม ต่อมา โคสุเกะได้ติดต่อกับนัตสึเมะ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นสมาชิกตัวแทนของครอบครัวของโคสุเกะมาหลายปีแล้ว

เนื้อเรื่องในตอนแรกที่ดูเหมือนอนิเมะผี

และนอกจากนี้ยังมีตัวละครเด็กหน้าซีดที่เหมือนภูตผีคอยหลอกหลอนอาคารคาโมโนะมิยะ ชื่อของเขาคือ Noppo หรือ Ayumu Murase และใช่ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผี ตรรกะแห่งความฝันที่อธิบายมากเกินไปและใช้น้อยเกินไปทำให้กลุ่มของนพโปะและโคสุเกะรวมกัน โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความผูกพันทางอารมณ์ที่รุนแรงของโคสุเกะกับนัตสึเมะ

Drifting Home ในการเชื่อมต่อนั้นแทบจะไม่สำคัญเลยแม้แต่น้อย ที่พักพิงลอยน้ำของกลุ่มบางครั้งพบในที่ทรุดโทรมอื่นๆ และก็ส่วนใหญ่นะสถานที่ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ รวมถึงห้างสรรพสินค้า

และอพาร์ตเมนต์อื่น ๆ ฉากสำรวจเหล่านี้นำภาพยนตร์ไปสู่ผลตอบแทนในที่สุดในอีกสองชั่วโมงต่อมา การเดินทางไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในที่สุดเรื่องนี้ก็พาตัวละครไปไปถึงสถานที่ ที่ออกแนวแฟนตาซีเหใือยอยู่อีกโลกหนึ่งเลย

เนื่้อเรื่องก็จะเดินไปได้ด้วยดีแต่ก็เกิดปัญหาสำคัญประการหนึ่ง เด็กเหล่านี้ไม่มีแรงจูงใจทางจิตใจหรืออารมณ์เกินกว่าความตั้งใจทั่วไปในการดำรงชีวิต ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาในการแก้ปัญหามากกว่าที่ควร

เนื้อเรื่องในตอนแรกที่ดูเหมือนอนิเมะผี

มีภยันตรายบางอย่างบีบให้กลุ่มของโคสุเกะต้องเผชิญหน้ากับแรงโน้มถ่วงที่เหนือจริงของสถานการณ์ของพวกเขา แต่ถึงกระนั้น เด็กเหล่านี้ก็พูดคุยหรือหาอาหารผ่านด้านที่อันตรายที่สุดของสภาพของพวกเขา

ลองนึกภาพเรื่องเล่าสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่ส่วนใหญ่ยังคงสร้างความมั่นใจให้กับสถานที่ที่น่าหวาดเสียว แต่ก็นั้นแหละประเด็นคืออะไร ผู้ชมอาจทิ้งบทเรียนชีวิตสำเร็จรูปและสงสัยในหลักฐานที่ดูเหมือนคุ้นเคยอีกครั้ง

ก็ถือว่าเรื่องนี้ Drifting Home เรื่องย่อ สามารถทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเป็นภาพยนตร์หายนะที่ตรงไปตรงมา โดยเน้นที่การค้นหาเสบียงใหม่ของกลุ่ม หรือหลังจากนั้น การพังทลายของอาคาร Kamonomiya พวกเขากำลังลอยอยู่ในทะเลไม่ใช่สปอยล์

เรื่องจะซับซ้อนขึ้นเมื่อมีคำถามใหญ่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนพโปและโคสุเกะและนัตสึเมะ ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ นอกจากนี้ มันเป็นเรื่องยากที่จะตื่นเต้นกับภาพยนตร์เรื่องนี้

เมื่อเสียเวลาไปกับการอธิบายที่ไม่สำคัญและไม่จำเป็นโดยทั่วไปเกี่ยวกับเหตุการณ์หายนะและเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง บางครั้ง จินตนาการก็ควรจะยอดเยี่ยม

ผลงานจากสตูดิโอ studio colorido

แต่ปัญหาที่แท้จริงของเรื่องนี้ บ้านล่องลอย เรื่องย่อ ก็คือเนื้อหาหลักไม่ได้สะท้อนถึงสภาวะทางอารมณ์ของตัวละคร มีรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมและมีชีวิตชีวามากมายที่รวมอยู่ในการออกแบบการผลิตของภาพยนตร์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเค้าโครงของ Kanomiya และบรรยากาศที่เหมือนผีสิง แต่การจัดฉากที่กระตุ้นอารมณ์นี้ไม่ได้บอกอะไรมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตายก่อนตายของโคสุเกะและนัตสึเมะ ซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินไปในระหว่างการสนทนาที่ตายในครรภ์ ไม่ใช่การผจญภัยในช่วงกลางวิกฤต

ที่พวกเขาสำรวจชีวิตในวันสิ้นโลก ประกาศความรู้สึก หรือความตั้งใจจริง ๆ แล้วรับปัญญา มันไม่ใช่การเล่าเรื่องที่ซับซ้อน อาจเป็นเพราะภาพยนตร์ออกแบบมาสำหรับผู้ชมอายุน้อย แต่แนวคิดของเรื่องนี้ นั้นค่อนข้างแคระแกรนจนสิ่งเดียวที่น่าจดจำคือศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้

อนิเมะเรื่องนี้ Drifting Home พากย์ไทย ก็ได้สตรีมที่ Netflix ปล่อยทีเซอร์ตัวที่สองของเรื่องนี้ ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องล่าสุดจาก Studio Colorido ที่เคยสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้วใน Penguin Highway ในปี 2018

ผลงานจากสตูดิโอ studio colorido

และ A Whisker Away ในปี 2020 กับเรื่องราวเหนือจินตนาการของเหล่าเด็กๆ ที่ติดอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่ห้อมล้อมไปด้วยทะเลอันกว้างใหญ่ โดยภาพยนตร์มีกำหนดฉาย 16 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง

ขอพูดถึงสตูดิโอที่สร้างเรื่องนี้ บ้านล่องลอย ผู้กำกับ นิดนึงนะ ทางบริษัทก่อตั้งขึ้นโดยโปรดิวเซอร์ Hideo Uda ในปี 2011 สตูดิโอนี้ปฏิบัติตามหลักการของ มีการสร้างสถานที่ซึ่งผู้คนที่เกี่ยวข้อง

กับอนิเมะสามารถทำงานต่อไปได้อย่างสงบสุข และมีส่วนร่วมในการพัฒนาวัฒนธรรมแอนิเมชั่นญี่ปุ่นต่อไป Colorido ในชื่อสตูดิโอแปลว่า สีสัน ในภาษาโปรตุเกสและสเปน

หลายปีต่อมา บริษัทได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบริษัท Twin Engine และกลายเป็นบริษัทในเครือในเครือข่าย โดยมี Kōji Yamamoto ซีอีโอของ Twin Engine กลายเป็นซีอีโอร่วม

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 Studio Colorido ได้ลงนามในข้อตกลงการผลิตร่วมเป็นเวลาหลายปีกับ Netflix ด้วย

พล็อตของเรื่องนี้ดูแปลกใหม่

สำหรับฉันคิดว่าเรื่องนี้มีพล็อตแปลก เลยทำให้น่าสนใจมาก จริงอยู่ที่ว่าอ นิ เมะ ออนไลน์แนว ๆ ตึกตั้งกลางน้ำแล้วขายเนื้อหาในแนวเอาชีวิตรอดนั้นมันก็พอมีอยู่บ้าง แต่เรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่น ๆ ตรงที่เหตุเกิดจากความขัดแย้งของเด็ก ๆ
และเหตุอันตรายที่กำลังมาเยือนตัวละครหลัก บ้านล่องลอย ตัวละคร ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดนำพาพวกเขาไปยังสถานที่แปลก ๆ แต่เต็มไปด้วยเรื่องเหนือจินตนาการเกินคาดคิด เมื่อมันมีความเป็นไซไฟแฟนตาซีอยู่สูงมากสิ่งที่ชวนประทับใจต่อมาก็คือภาพสวยสมจริง
แต่ไม่ว่าจะตอนฝนตกหนักมาก ในฉากก็มีความเป็นหมอกควันฟุ้ง ๆ ตึกอาคารมีความเหมือนภาพแนว 3D ดังนั้ในเรื่องเราจะได้เห็นภาพแนว 2D และ 3D กันเลย โทนสีของพื้นน้ำ และท้องฟ้าสวยมาก แม้แต่การต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภาพก็สวยจนรู้สึกอยากลุกไปต้มมาม่ากินตามเลย
พล็อตของเรื่องนี้ดูแปลกใหม่

ในหลังจากนั้นพวกเขาทั้ง 4 คนก็สำรวจพื้นที่และไปพบเข้ากับแคมป์ที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้า และความไม่ลงรอยกันระหว่างโคสึเกะ และนัทสึเมะก็ทำให้พวกเขาเริ่มมีปากเสียง สุดท้ายแล้วเรื่องราวก็ยิ่งบานปลายหนักขึ้นเมื่อ ฮามะ เรย์นะ

drifting home noppo ก็พร้อมเพื่อนสนิทของเธอขึ้นดาดฟ้ามาสมทบเพื่อติติงนัทสึเมะ เพราะเธอเข้าใจผิด ว่านัทสึเมะตามตอแยโคสึเกะเด็กหนุ่มที่เธอชอบ อีกทั้งแล้วเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างกดดันให้นัทสึเมะวิ่งหนีจากเพื่อน ๆ ปีนปายขึ้นไปสูงขึ้น ๆ และพลาดร่วงลงในที่สุด ในวินาทีที่กำลังร่วงลงสู่พื้น ฝนก็ตกหนักจนมองไม่เห็นทัศนียภาพใด ๆ

และเมื่อฝนหยุดตก ทุกอย่างก็หายไป เหลือเพียงอพาร์ทเมนท์ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำและเด็กอีก 6 คนที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง พวกเขาจะออกจากที่แห่งนั้นได้อย่างไร

แล้วนปโปะคือใคร แค่เพื่อนในจิตนาการของนัทสึเมะ  หรือตัวตนที่แท้จริงคืออะไร ก็แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่อนิเมะไก่กาที่จะทำให้คุณเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ แน่นอน

รีวิวDrifting Home ข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องนี้

ซึ่ง ๆ เรื่องนี้ก็ไม่ได้ขายแค่พล็อตแปลกเท่านั้น แต่ยังให้ข้อคิดในการดูอนิเมะอีกมากมาย มีเรื่องราวของการเอาตัวรอดของเด็กทั้งหมด และภายในเรื่องก็ไม่ได้นำเสนอในเชิงมิตรภาพที่ดีสวยงามเท่านั้น
เพราะชีวิตจริงนั้นไม่ได้สวยงามเสมอไป เล่าความรู้หลังจากที่ดูจบตามความเป็นจริงในบางครั้งเมื่อคนหมู่มากตกที่นั่งลำบากเจอเรื่องแย่พร้อมกัน มันก็จะมีทั้งคนที่ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือคนอื่น ๆ รวมไปถึงคนที่คิดถึงแค่เรื่องตัวเอง
และโทษทุกสิ่งอย่าง ซึ่งภายในเรื่อง drifting home pantip ก็มีส่วนนี้ให้เห็น หนำซ้ำบทของเด็กที่เอาแต่โวยวายยังโวยวายได้ชวนหงุดหงิดมาก ๆ ด้วย ทำเอาเราอินมากจนอยากตะโกนใส่ว่าช่วยหยุดโวยวายสักทีได้ไหมเลยล่ะค่ะ
แต่พอคิดถึงความสมเหตุสมผลมันกปกติของเด็กวัย 11 ถึง 12 แหละนะ แม้จะมีคนงองแง โวยวาย ดื้อรั้นในแบบเด็ก ๆ แต่ก็ยังมีเด็กที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ พอจะเป็นที่พึ่งของเพื่อน ๆ ได้อยู่
ในส่วนสุดท้ายของเรื่องนี้ก็คือเมื่อมันมีปมความขัดแย้งแต่ต้นเรื่อง ปลายเรื่องมันก็จะคลายปมออก และเสน่ห์ของอ นิ เมะ ออนไลน์แบบนี้ก็คือ มันเป็นความสุขที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

ในส่วนของช่วงเปิดเรื่องราว 15 นาทีแรก ประกอบกับภาพโปสเตอร์แนะนำหนังสีสันสดใส อาจทำให้บางคนเข้าใจว่ากำลังจะได้รับชมหนังอานิเมะสนุกๆ เกี่ยวกับกลุ่มเด็กน้อยผจญภัยในต่างโลก

เพื่อหาทางกลับบ้าน ระหว่างทางก็ได้เรียนรู้ความสำคัญของพลังมิตรภาพพร้อมกับได้เติบโตขึ้นทางความคิดจิตใจ ประมาณว่า Digimon หรืออะไรทำนองนั้น ถ้าคุณเองก็กำลังคิดแบบนี้ ขอให้รู้ว่าคิดถูกแล้ว แต่แค่ 10% เท่านั้น

รีวิวDrifting Home ข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องนี้

จริงอยู่ พล็อตเรื่อง บ้านล่องลอย เดอะมูฟวี่ คือการผจญภัยในโลกแฟนตาซีเพื่อหาทางกลับสู่โลกเดิม แต่ตัวละครที่ต้องมาดำเนินเรื่องตามพล็อตนี้คือเด็ก ป.6 ธรรมดาๆ ไม่ได้มีสกิลพิเศษหรือของวิเศษติดตัวทั้งก่อนและหลังข้ามมาต่างโลก

แถมยังไม่ได้ฉลาดและสุขุมเกินวัยแบบเจ้าอาโอยามะใน Penguin Highway ทว่าเป็นเด็ก ป.6 ที่มีนิสัย จิตใจ และความคิดอ่านสมวัย 11 ถึง 12 ปีจริงๆ ทั้งซุกซน ดื้อรั้น เอาแต่ใจ พอตกใจกลัวก็ทำอะไรไม่ถูก ถึงจะรักเพื่อน

แต่ก็แคร์เฉพาะคนที่นับว่าเป็นพวกพ้อง ถ้าไม่ใช่ จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่สน กระทั่งตัวละครเอกอย่างโคสุเกะและนัตสึเมะก็มักแสดงนิสัยเสียแบบเด็ก ๆ ออกมาบ่อย ๆ ซึ่งเหนืออื่นใด นิสัยเสียของเด็ก ๆ เหล่านี้จะมีให้เห็นไปตลอดทั้งเรื่อง

แต่จะเห็นน้อยลงเพราะตัวหนังคอยหาโมเมนต์ให้ตัวละครได้แสดงด้านที่น่าจะทำให้ผู้ชมยอมรับมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นในกลุ่มตัวเอกก็มีบางตัวที่จนแล้วจนรอดมีบทบาทน้อยจนแทบตัดออกได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับเนื้อเรื่อง

และว่ากันตามตรง ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ บ้านล่องลอย pantip ไม่มีพัฒนาการ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แนวอฟนตาซีแบบจืด ๆ แต่มันเป็นดราม่าในคราบแฟนตาซีที่กดดันให้ตัวละครเรียนรู้และยอมรับความจริงบางอย่างให้ได้ เพื่อที่จะสามารถมูฟออนต่อไปนะ

บทแฟนตาซีของเรื่องนี้ที่แตกต่าง

มาพูดถึงเนื้อเรื่อง บ้านล่องลอย สปอย ช่วงครึ่งแรกดำเนินอย่างค่อนข้างเนิบช้า แต่เป็นความเนิบช้าที่ชวนอึดอัด อึมครึม ไม่ปลอดโปร่งโล่งใจ อบอวลไปด้วยความรู้สึกด้านลบที่ทยอยกันเข้ามาจากหลายสิ่งหลายอย่าง ตั้งแต่บรรยากาศวังเวงปนน่ากลัวของอาคารห้องชุดร้าง

ความเวิ้งว้างว่างเปล่าของทะเลที่แผ่ออกไปสุดลูกหูลูกตา ความดิ้นรนของพวกเด็กๆ ตอนที่อาหารและน้ำดื่มใกล้หมด ตัวละครลึกลับอย่างนปโปะคุงที่แม้จะดูไม่มีพิษมีภัยแต่ก็ไว้ใจได้ไม่เต็มที่

บ้านล่องลอย วิเคราะห์ รวมถึงนิสัยเสียของตัวละครบางตัวที่เชื่อว่าน่าจะทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้รักเด็กแบบนางสาวไทยหงุดหงิดจนอยากจับมาตบกะโหลกสักป้าบ ทั้งความดื้อรั้นหัวชนฝาของโคสุเกะ และความเรื่องมากเอาแต่ใจของเรย์นะ ที่พากย์เสียงโดย Inori Minase มีจังหวะชิลๆ พอให้ปล่อยใจสบายๆ แค่ไม่กี่วิฯ แถมนานๆ จะมาที

แต่พอไปถึงครึ่งหลัง หรือช่วงที่เริ่มมีการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับมิติพิศวงซึ่งเต็มไปด้วยทะเลแห่งนี้ รวมถึงตัวจริงของนปโปะคุง ตัวเรื่องก็เหมือนโยกเกียร์เร่งสปีดสู่ฉากไคลแมกซ์แบบไม่คิดแวะจอดรับใครที่ไหนแล้ว มีเรื่องให้ร่วมลุ้นกับตัวละครดาหน้าเข้ามาแบบไม่ต้องพักหายใจหายคอ ไปพักทีเดียวตอนช่วงคลี่คลายเรื่องก่อนจบ

บทแฟนตาซีของเรื่องนี้ที่แตกต่าง

ไอเดียหลักของเรื่องนี้ ที่เพิ่งมานำเสนอในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง ซึ่งขอไม่บอกว่าคืออะไรเพื่อไม่ให้เป็นการสปอยล์ แต่บอกได้ว่าเกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องอย่างมาก กล่าวได้ว่าแปลกใหม่และน่าสนใจไม่น้อย

แต่ด้วยการเดินเรื่อง Drifting Home สปอย อย่างรวดเร็วเลยมีการแตะไอเดียที่ว่านี้แค่ผิวเผิน หากมีการเขียนบทที่กระจายเนื้อหาดีกว่านี้ หรือทำเรื่องให้ยาวขึ้น เป็นซีรีส์หรือมินิซีรีส์อานิเมะไปเลย ก็อาจนำไอเดียตรงนี้ไปใช้เสริมบทบาทของตัวละครเด็กคนอื่นๆ

ในกลุ่มให้เป็นมากกว่าตัวประกอบชั้น 1 รวมถึงทำให้ฉากไคลแมกซ์ของเรื่องดูงงน้อยลงและมีอิมแพกต์มากกว่านี้ได้ด้วยซ้ำ หากจะมีอะไรที่ Studio Colorido ทำได้ดีเยี่ยมในผลงานชิ้นล่าสุดนี้ เรื่องนั้นน่าจะเป็นโปรดักชัน

โดยเฉพาะด้านภาพที่บูรณาการภาพวาด 2 มิติเข้ากับเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิกอย่างงดงามชวนมองตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ทั้งสายฝน คลื่นน้ำทะเล การเรนเดอร์แสงและเงาที่ดูเนียน

และนวลตา มิพักต้องพูดถึงการใช้โมเดล 3 มิติสร้างฉากสถานที่ต่างๆ ให้ดูมีบรรยากาศสมจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย จนทำให้ฉากหลักของเรื่องอย่างอาคารห้องชุดหมายเลข 112 กลายเป็นตัวละครสำคัญอีกตัวของเรื่องทีเดียว เอาเป็นว่าใครที่ชื่นชอบอนิเมะแนวแฟนตาซีอยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *