รีวิวDrifting Home อนิเมะ แนวแฟนตาซี เรื่องราวของตึกปริศนาชวนให้ติดตาม
รีวิวDrifting Home เรื่องย่อ
เพราะบทเรียนที่ได้เรียนรู้และเพื่อนที่ได้รับระหว่างทางไม่เคยน่าสนใจหรือพัฒนาได้ดีเท่าหลักฐานสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ กลุ่มเพื่อนที่แน่นแฟ้นหายไปในอวกาศโดยไม่มีอาหารและน้ำจืด หลังจากน้ำท่วมฉับพลันส่งพวกเขาและอพาร์ทเมนต์คาโมโนะมิยะที่ถูกทิ้งร้างลงสู่มหาสมุทรที่กว้างใหญ่และอาจไร้ขอบเขต
ซึ่งเด็กๆ ที่นำโดยหัวหน้ากลุ่มโดยพฤตินัย โคสุเกะ หรือ มุทสึมิ ทามูระ และเพื่อนสมัยเด็กของเขา นัตสึเมะ หรือ อาซามิ เซโตะ ได้ค้นพบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่าพวกเขาไม่ควรเห็นแก่คนที่รัก แต่ก็ควรรู้ว่าเมื่อใดควรปล่อยมือ ถ้าหากท่านชื่นชอบการรีวิวของเราก็สามารถติดตามการรีวิวอนิเมะเรื่องอื่น ๆ ได้เลย ที่ อนิเมะผจญภัย อ่านฟรี ไม่เสียค่าบริการ
แต่ก็น่าเสียดายที่การตั้งค่าเริ่มต้นของภาพยนตร์นั้นน่าสนใจกว่าตัวเอกที่มีฟองสบู่เหล่านี้ โทนแสงจะกระทบไปทั่ว ซึ่งทำให้การปะทุของภาพยนตร์หายนะเป็นครั้งคราวนั้นอันตรายยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่นี้เกี่ยวกับเด็กกลุ่มหนึ่งที่ตกอยู่ในความต่อเนื่องของกาลอวกาศ และมันก็ฟังดูไม่ดีเท่าไหร่
เลยทำให้แฟน ๆ มังงะอาจพบว่าเนื้อหาหลักของเรื่องนี้ เกิดความรู้สึกชวนให้นึกถึง The Drifting Classroom ซึ่งเป็นการ์ตูนสยองขวัญที่สร้างความสับสนและชวนจินตนาการของ Kazuo Umezu
ในมังงะ บ้านล่องลอย ของ Umezu นักเรียนชั้นประถมศึกษากลุ่มหนึ่งต้องหลุดออกจากห้วงเวลาหลังจากหายนะที่อธิบายไม่ได้ส่งโรงเรียนของพวกเขาพุ่งเข้าสู่อนาคตที่เลวร้ายของเรื่องนี้ ค่อนข้างเบาสมองกว่ามาก และมีแมงมุมกลายพันธุ์และการตรึงกางเขนเด็กน้อยกว่า
เนื้อเรื่องในตอนแรกที่ดูเหมือนอนิเมะผี
และนอกจากนี้ยังมีตัวละครเด็กหน้าซีดที่เหมือนภูตผีคอยหลอกหลอนอาคารคาโมโนะมิยะ ชื่อของเขาคือ Noppo หรือ Ayumu Murase และใช่ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผี ตรรกะแห่งความฝันที่อธิบายมากเกินไปและใช้น้อยเกินไปทำให้กลุ่มของนพโปะและโคสุเกะรวมกัน โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความผูกพันทางอารมณ์ที่รุนแรงของโคสุเกะกับนัตสึเมะ
Drifting Home ในการเชื่อมต่อนั้นแทบจะไม่สำคัญเลยแม้แต่น้อย ที่พักพิงลอยน้ำของกลุ่มบางครั้งพบในที่ทรุดโทรมอื่นๆ และก็ส่วนใหญ่นะสถานที่ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ รวมถึงห้างสรรพสินค้า
และอพาร์ตเมนต์อื่น ๆ ฉากสำรวจเหล่านี้นำภาพยนตร์ไปสู่ผลตอบแทนในที่สุดในอีกสองชั่วโมงต่อมา การเดินทางไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในที่สุดเรื่องนี้ก็พาตัวละครไปไปถึงสถานที่ ที่ออกแนวแฟนตาซีเหใือยอยู่อีกโลกหนึ่งเลย
เนื่้อเรื่องก็จะเดินไปได้ด้วยดีแต่ก็เกิดปัญหาสำคัญประการหนึ่ง เด็กเหล่านี้ไม่มีแรงจูงใจทางจิตใจหรืออารมณ์เกินกว่าความตั้งใจทั่วไปในการดำรงชีวิต ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาในการแก้ปัญหามากกว่าที่ควร
มีภยันตรายบางอย่างบีบให้กลุ่มของโคสุเกะต้องเผชิญหน้ากับแรงโน้มถ่วงที่เหนือจริงของสถานการณ์ของพวกเขา แต่ถึงกระนั้น เด็กเหล่านี้ก็พูดคุยหรือหาอาหารผ่านด้านที่อันตรายที่สุดของสภาพของพวกเขา
ลองนึกภาพเรื่องเล่าสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่ส่วนใหญ่ยังคงสร้างความมั่นใจให้กับสถานที่ที่น่าหวาดเสียว แต่ก็นั้นแหละประเด็นคืออะไร ผู้ชมอาจทิ้งบทเรียนชีวิตสำเร็จรูปและสงสัยในหลักฐานที่ดูเหมือนคุ้นเคยอีกครั้ง
ก็ถือว่าเรื่องนี้ Drifting Home เรื่องย่อ สามารถทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเป็นภาพยนตร์หายนะที่ตรงไปตรงมา โดยเน้นที่การค้นหาเสบียงใหม่ของกลุ่ม หรือหลังจากนั้น การพังทลายของอาคาร Kamonomiya พวกเขากำลังลอยอยู่ในทะเลไม่ใช่สปอยล์
เรื่องจะซับซ้อนขึ้นเมื่อมีคำถามใหญ่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนพโปและโคสุเกะและนัตสึเมะ ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ นอกจากนี้ มันเป็นเรื่องยากที่จะตื่นเต้นกับภาพยนตร์เรื่องนี้
เมื่อเสียเวลาไปกับการอธิบายที่ไม่สำคัญและไม่จำเป็นโดยทั่วไปเกี่ยวกับเหตุการณ์หายนะและเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง บางครั้ง จินตนาการก็ควรจะยอดเยี่ยม
ผลงานจากสตูดิโอ studio colorido
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเค้าโครงของ Kanomiya และบรรยากาศที่เหมือนผีสิง แต่การจัดฉากที่กระตุ้นอารมณ์นี้ไม่ได้บอกอะไรมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตายก่อนตายของโคสุเกะและนัตสึเมะ ซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินไปในระหว่างการสนทนาที่ตายในครรภ์ ไม่ใช่การผจญภัยในช่วงกลางวิกฤต
ที่พวกเขาสำรวจชีวิตในวันสิ้นโลก ประกาศความรู้สึก หรือความตั้งใจจริง ๆ แล้วรับปัญญา มันไม่ใช่การเล่าเรื่องที่ซับซ้อน อาจเป็นเพราะภาพยนตร์ออกแบบมาสำหรับผู้ชมอายุน้อย แต่แนวคิดของเรื่องนี้ นั้นค่อนข้างแคระแกรนจนสิ่งเดียวที่น่าจดจำคือศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้
อนิเมะเรื่องนี้ Drifting Home พากย์ไทย ก็ได้สตรีมที่ Netflix ปล่อยทีเซอร์ตัวที่สองของเรื่องนี้ ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องล่าสุดจาก Studio Colorido ที่เคยสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้วใน Penguin Highway ในปี 2018
และ A Whisker Away ในปี 2020 กับเรื่องราวเหนือจินตนาการของเหล่าเด็กๆ ที่ติดอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่ห้อมล้อมไปด้วยทะเลอันกว้างใหญ่ โดยภาพยนตร์มีกำหนดฉาย 16 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง
ขอพูดถึงสตูดิโอที่สร้างเรื่องนี้ บ้านล่องลอย ผู้กำกับ นิดนึงนะ ทางบริษัทก่อตั้งขึ้นโดยโปรดิวเซอร์ Hideo Uda ในปี 2011 สตูดิโอนี้ปฏิบัติตามหลักการของ มีการสร้างสถานที่ซึ่งผู้คนที่เกี่ยวข้อง
กับอนิเมะสามารถทำงานต่อไปได้อย่างสงบสุข และมีส่วนร่วมในการพัฒนาวัฒนธรรมแอนิเมชั่นญี่ปุ่นต่อไป Colorido ในชื่อสตูดิโอแปลว่า สีสัน ในภาษาโปรตุเกสและสเปน
หลายปีต่อมา บริษัทได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบริษัท Twin Engine และกลายเป็นบริษัทในเครือในเครือข่าย โดยมี Kōji Yamamoto ซีอีโอของ Twin Engine กลายเป็นซีอีโอร่วม
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 Studio Colorido ได้ลงนามในข้อตกลงการผลิตร่วมเป็นเวลาหลายปีกับ Netflix ด้วย
พล็อตของเรื่องนี้ดูแปลกใหม่
ในหลังจากนั้นพวกเขาทั้ง 4 คนก็สำรวจพื้นที่และไปพบเข้ากับแคมป์ที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้า และความไม่ลงรอยกันระหว่างโคสึเกะ และนัทสึเมะก็ทำให้พวกเขาเริ่มมีปากเสียง สุดท้ายแล้วเรื่องราวก็ยิ่งบานปลายหนักขึ้นเมื่อ ฮามะ เรย์นะ
drifting home noppo ก็พร้อมเพื่อนสนิทของเธอขึ้นดาดฟ้ามาสมทบเพื่อติติงนัทสึเมะ เพราะเธอเข้าใจผิด ว่านัทสึเมะตามตอแยโคสึเกะเด็กหนุ่มที่เธอชอบ อีกทั้งแล้วเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างกดดันให้นัทสึเมะวิ่งหนีจากเพื่อน ๆ ปีนปายขึ้นไปสูงขึ้น ๆ และพลาดร่วงลงในที่สุด ในวินาทีที่กำลังร่วงลงสู่พื้น ฝนก็ตกหนักจนมองไม่เห็นทัศนียภาพใด ๆ
และเมื่อฝนหยุดตก ทุกอย่างก็หายไป เหลือเพียงอพาร์ทเมนท์ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำและเด็กอีก 6 คนที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง พวกเขาจะออกจากที่แห่งนั้นได้อย่างไร
แล้วนปโปะคือใคร แค่เพื่อนในจิตนาการของนัทสึเมะ หรือตัวตนที่แท้จริงคืออะไร ก็แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่อนิเมะไก่กาที่จะทำให้คุณเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ แน่นอน
รีวิวDrifting Home ข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องนี้
ในส่วนของช่วงเปิดเรื่องราว 15 นาทีแรก ประกอบกับภาพโปสเตอร์แนะนำหนังสีสันสดใส อาจทำให้บางคนเข้าใจว่ากำลังจะได้รับชมหนังอานิเมะสนุกๆ เกี่ยวกับกลุ่มเด็กน้อยผจญภัยในต่างโลก
เพื่อหาทางกลับบ้าน ระหว่างทางก็ได้เรียนรู้ความสำคัญของพลังมิตรภาพพร้อมกับได้เติบโตขึ้นทางความคิดจิตใจ ประมาณว่า Digimon หรืออะไรทำนองนั้น ถ้าคุณเองก็กำลังคิดแบบนี้ ขอให้รู้ว่าคิดถูกแล้ว แต่แค่ 10% เท่านั้น
จริงอยู่ พล็อตเรื่อง บ้านล่องลอย เดอะมูฟวี่ คือการผจญภัยในโลกแฟนตาซีเพื่อหาทางกลับสู่โลกเดิม แต่ตัวละครที่ต้องมาดำเนินเรื่องตามพล็อตนี้คือเด็ก ป.6 ธรรมดาๆ ไม่ได้มีสกิลพิเศษหรือของวิเศษติดตัวทั้งก่อนและหลังข้ามมาต่างโลก
แถมยังไม่ได้ฉลาดและสุขุมเกินวัยแบบเจ้าอาโอยามะใน Penguin Highway ทว่าเป็นเด็ก ป.6 ที่มีนิสัย จิตใจ และความคิดอ่านสมวัย 11 ถึง 12 ปีจริงๆ ทั้งซุกซน ดื้อรั้น เอาแต่ใจ พอตกใจกลัวก็ทำอะไรไม่ถูก ถึงจะรักเพื่อน
แต่ก็แคร์เฉพาะคนที่นับว่าเป็นพวกพ้อง ถ้าไม่ใช่ จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่สน กระทั่งตัวละครเอกอย่างโคสุเกะและนัตสึเมะก็มักแสดงนิสัยเสียแบบเด็ก ๆ ออกมาบ่อย ๆ ซึ่งเหนืออื่นใด นิสัยเสียของเด็ก ๆ เหล่านี้จะมีให้เห็นไปตลอดทั้งเรื่อง
แต่จะเห็นน้อยลงเพราะตัวหนังคอยหาโมเมนต์ให้ตัวละครได้แสดงด้านที่น่าจะทำให้ผู้ชมยอมรับมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นในกลุ่มตัวเอกก็มีบางตัวที่จนแล้วจนรอดมีบทบาทน้อยจนแทบตัดออกได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับเนื้อเรื่อง
และว่ากันตามตรง ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ บ้านล่องลอย pantip ไม่มีพัฒนาการ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แนวอฟนตาซีแบบจืด ๆ แต่มันเป็นดราม่าในคราบแฟนตาซีที่กดดันให้ตัวละครเรียนรู้และยอมรับความจริงบางอย่างให้ได้ เพื่อที่จะสามารถมูฟออนต่อไปนะ
บทแฟนตาซีของเรื่องนี้ที่แตกต่าง
มาพูดถึงเนื้อเรื่อง บ้านล่องลอย สปอย ช่วงครึ่งแรกดำเนินอย่างค่อนข้างเนิบช้า แต่เป็นความเนิบช้าที่ชวนอึดอัด อึมครึม ไม่ปลอดโปร่งโล่งใจ อบอวลไปด้วยความรู้สึกด้านลบที่ทยอยกันเข้ามาจากหลายสิ่งหลายอย่าง ตั้งแต่บรรยากาศวังเวงปนน่ากลัวของอาคารห้องชุดร้าง
ความเวิ้งว้างว่างเปล่าของทะเลที่แผ่ออกไปสุดลูกหูลูกตา ความดิ้นรนของพวกเด็กๆ ตอนที่อาหารและน้ำดื่มใกล้หมด ตัวละครลึกลับอย่างนปโปะคุงที่แม้จะดูไม่มีพิษมีภัยแต่ก็ไว้ใจได้ไม่เต็มที่
บ้านล่องลอย วิเคราะห์ รวมถึงนิสัยเสียของตัวละครบางตัวที่เชื่อว่าน่าจะทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้รักเด็กแบบนางสาวไทยหงุดหงิดจนอยากจับมาตบกะโหลกสักป้าบ ทั้งความดื้อรั้นหัวชนฝาของโคสุเกะ และความเรื่องมากเอาแต่ใจของเรย์นะ ที่พากย์เสียงโดย Inori Minase มีจังหวะชิลๆ พอให้ปล่อยใจสบายๆ แค่ไม่กี่วิฯ แถมนานๆ จะมาที
แต่พอไปถึงครึ่งหลัง หรือช่วงที่เริ่มมีการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับมิติพิศวงซึ่งเต็มไปด้วยทะเลแห่งนี้ รวมถึงตัวจริงของนปโปะคุง ตัวเรื่องก็เหมือนโยกเกียร์เร่งสปีดสู่ฉากไคลแมกซ์แบบไม่คิดแวะจอดรับใครที่ไหนแล้ว มีเรื่องให้ร่วมลุ้นกับตัวละครดาหน้าเข้ามาแบบไม่ต้องพักหายใจหายคอ ไปพักทีเดียวตอนช่วงคลี่คลายเรื่องก่อนจบ
ไอเดียหลักของเรื่องนี้ ที่เพิ่งมานำเสนอในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง ซึ่งขอไม่บอกว่าคืออะไรเพื่อไม่ให้เป็นการสปอยล์ แต่บอกได้ว่าเกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องอย่างมาก กล่าวได้ว่าแปลกใหม่และน่าสนใจไม่น้อย
แต่ด้วยการเดินเรื่อง Drifting Home สปอย อย่างรวดเร็วเลยมีการแตะไอเดียที่ว่านี้แค่ผิวเผิน หากมีการเขียนบทที่กระจายเนื้อหาดีกว่านี้ หรือทำเรื่องให้ยาวขึ้น เป็นซีรีส์หรือมินิซีรีส์อานิเมะไปเลย ก็อาจนำไอเดียตรงนี้ไปใช้เสริมบทบาทของตัวละครเด็กคนอื่นๆ
ในกลุ่มให้เป็นมากกว่าตัวประกอบชั้น 1 รวมถึงทำให้ฉากไคลแมกซ์ของเรื่องดูงงน้อยลงและมีอิมแพกต์มากกว่านี้ได้ด้วยซ้ำ หากจะมีอะไรที่ Studio Colorido ทำได้ดีเยี่ยมในผลงานชิ้นล่าสุดนี้ เรื่องนั้นน่าจะเป็นโปรดักชัน
โดยเฉพาะด้านภาพที่บูรณาการภาพวาด 2 มิติเข้ากับเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิกอย่างงดงามชวนมองตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ทั้งสายฝน คลื่นน้ำทะเล การเรนเดอร์แสงและเงาที่ดูเนียน
และนวลตา มิพักต้องพูดถึงการใช้โมเดล 3 มิติสร้างฉากสถานที่ต่างๆ ให้ดูมีบรรยากาศสมจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย จนทำให้ฉากหลักของเรื่องอย่างอาคารห้องชุดหมายเลข 112 กลายเป็นตัวละครสำคัญอีกตัวของเรื่องทีเดียว เอาเป็นว่าใครที่ชื่นชอบอนิเมะแนวแฟนตาซีอยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด