รีวิว ดาบพิฆาตอสูร
Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร อนิะเมะที่กระแสดีตั้งกลางปี 2019 ไม่ว่าจะผ่านกระแสดร่ามาต่างๆมากมายจนปัจจุบันขึ้นเทนร์ดติด top 10 ของผู้รับชมสุดสูงในไทยของผู้ให้บริการสตรีมมิ่งสื่อบันเทิงอย่าง Netflix ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยอนิเมะเรื่องนี้มีทั้งหมด 26 ตอน ตอนละ 23 นาทีโดยประมาณ เชื่อว่าถ้าได้ลองดูก็สามารถดูจบภายในวันเดียวได้ รีวิวอนิเมะ เรื่อง ดาบพิฆาตอสูร Demon Slayer
หากพูดถึงอนิเมะที่เป็นกระแสในปี 2019 และมีเพลง OP ติดหูคออนิเมะคงหนีไม่พ้น Kimetsu no yaiba หรือในชื่อไทยคือ ดาบพิฆาตอสูร ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนถึงขั้นที่ว่าในปี 2020 ท้ายปีนี้มีภาคเดอะมูฟวี่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทยแล้ว สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นและเป็นกระแส คือ ภาพการเคลื่อนไหวที่สมูทสวยงามคาแรกเตอร์ตัวละครที่ดูฉูดฉาดด้วยการไฮไลท์สีผมแทบทุกตัว กับชุดกิโมโนไฮแฟชั่นให้ความรู้สึกแปลกใหม่ดูมีเอกลักษณ์แม้แรกๆจะแอบรู้สึกขัดตาไปบ้าง อีกทั้งในเรื่องเซ็ตติ้งฉากเป็นยุคไทโชซึ่งใกล้เคียงกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งยังไม่ค่อยมีเทคโนโลยีเข้ามามากนัก
ดาบพิฆาตอสูรเป็นเรื่องราวของ ‘ทันจิโร่’ เด็กหนุ่มซึ่งอาศัยอยู่กับแม่และน้องๆหลายคนในบ้านบนภูเขาห่างไกลผู้คน วันหนึ่งเมื่อทันจิโร่ต้องลงจากเขาเพื่อไปขายของนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวเกิดมีพายุหิมะขึ้น ทำให้เขาไม่สามารถกลับไปบ้านได้ทันในคืนนั้น จึงต้องอยู่หลบพายุในกระท่อมของคุณลุงใจดีคนหนึ่ง ในตอนนั้นมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าช่วงนี้มีอสูรออกล่าไล่ฆ่าผู้คนไปหลายศพ
ด้วยความเป็นห่วงครอบครัวทันจิโร่จึงรีบกลับบ้านทันทีที่พายุหิมะสงบลง เมื่อกลับมาถึงก็พบเพียงศพของแม่และน้องๆ สภาพบ้านเต็มไปด้วยเลือด โชคดีที่ ‘เนซึโกะ’ น้องสาวคนรองยังคงมีลมหายใจอยู่ ทันจิโร่จึงแบกเนซึโกะลงเขาไปหาหมอระหว่างทางเนซึโกะได้กลายเป็นอสูรแล้วเข้าทำร้ายทันจิโร่ จนมีนักล่าอสูรเข้ามาช่วยเหลือและส่งทันจิโร่ไปฝึกเพื่อเป็นนักล่าอสูร โดยทันจิโร่มีเป้าหมายหลักว่าจะหาทางรักษาเนซึโกะให้กลับมาเป็นมนุษย์ให้ได้ เว็บหนัง
ดาบพิฆาตอสูรยังจัดเป็นอนิเมะน้ำดีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ใช่สักแต่ว่าต้องสู้กันเอามันส์อย่างเดียว แต่การต่อสู้ทุกครั้งมีความหมายและเผยให้เห็นภูมิหลังต่างๆของทั้งฝั่งนักล่าอสูรและฝ่ายอสูรด้วย อาจมีฉากประทับใจจนทำให้คุณรู้สึกขนลุกหรือหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว อีกทั้งเนื้อเรื่องยังเดาทางยาก แม้พระเอกไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่เหมือนตัวประกอบอื่นๆมีสิทธิ์ตายได้ทุกเมื่อ หากใครสนใจอยากลองดูเรื่องนี้แบบถูกลิขสิทธิ์สามารถดูได้ใน Netflix และทาง Line TVทำให้ได้กลิ่นอาย
วัฒนธรรมญี่ปุ่นจ๋าแบบดั้งเดิมไปเต็มๆ และด้วยการดำเนินเรื่องที่ลุ้นระทึกไม่ค่อยมีช่วยเอื่อยเฉื่อยให้รู้สึกเบื่อมากเท่าไหร่ เพราะตัวละครมักเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เสี่ยงตายหรือกดดันแทบทุกตอนลังจากนั้นเส้นเรื่องของ การ์ตูน อนิเมะ ดาบพิฆาตอสูร Demon Slayer : Kimetsu no Yaiba ได้ดำเนินสู่การผ่านด่านตามแบบฉบับการ์ตูนโชเนน (การ์ตูนสำหรับเด็กผู้ชาย) โดยทันจิโร่ได้ไปฝึกบนเขากับอาจารย์อุโรโกะดากิ ซึ่งมีแบบทดสอบต่าง ๆ ให้เขามากมาย โดยแบบทดสอบสุดท้ายคือการผ่าหินขนาดใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยความมุมานะ และการเพ่งสมาธิของทันจิโร่ เขาก็สามารถผ่านแบบทดสอบทุกอย่างได้ในที่สุด
รีวิว ดาบพิฆาตอสูร
สำหรับอนิะเมะเรื่องนี้ อยู่ในแนว ดาร์กและตื่นเต้น ซึ่งมีสุดเด่นอยู่ที่ภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น อีกทั้งฉากการต่อที่สวยงามและเร้าใจ รวมถึงเนื้อเรื่องที่นำเสนอบรรยากาศเมืองญี่ปุ่นในยุคไทโช เนื้อเรื่องมุ่งเน้นที่การต่อสู้ระหว่างอสูรและหน่วยพิฆาตอสูร อีกทั้งตัวเอกที่เริ่มต้นมาด้วยความอ่อนแอ แต่ความพยายามและความมุ่งมั่นเต็มร้อย เชื่อว่าเหล่าคออนิเมะหลายคนก็มั้งจะแพ้ทางให้กับพระเอกสไตล์นี้ และฉากต่อสู้ที่ตื่นเต้นเร้าใจของพระเอกกับพวกพ้องก็รับรองได้เลยว่าไม่ผิดหวังสำหรับคออนิเมะแน่นอน
เรื่องเริ่มต้นที่ตัวเอก “คามาโดะ ทันจิโร่” เด็กหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยน ต้องมาพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อกับมาพบครอบครัวเป็นศพอยู่ในบ้าน เหลือรอดเพียง “คามาโดะ เนะซึโกะ” น้องสาวของทันจิโร่ แต่เธอกับไม่เหมือนเดิม น้องสาวของเขากลายเป็นอสูร แต่เธอกับไม่ทำร้ายทันจิโร่ เขาจึงทำทุกวิธีทางเพื่อหาวิธีรักษาเธอให้กับมาเป็นเหมือนเดิม โดยพระเอกของเราจึงเขาร่วมกับหน่วยพิฆาตอสูรจากการช่วยเหลือของ “โทมิโอะกะ กิยู” 1 ในเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูร ตามสไตส์พระเอกที่มีสกิลอันน้อยนิดของเรา ช่วงนี้ของเรื่องเราจะเห็นความพยายามของพระเอกจนรู้ตัวอีกทีเราก็เริ่มเอาใจช่วยและหลงรักตัวละครนี้ไปแล้ว พระเอกได้รับการฝึกฝนและสืบทอดวิชาจาก “อุโระโคดากิ ซากอนจิ” อาจาร์ยของโทมิโอะกะ กิยู ผู้ใช้เพลงดาบ ” ปราณวารี”
หลังจากพระเอกสามารถใช้เพลงดาบปราณวารีได้ เราจะเริ่มเห็นฉากต่อสู้กับอสูรที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นญี่ปุ่น ทั้งลายคลื่น เมฆ ลายไฟ อสูร และตัวละต่างๆ รวมถึงเสื้อผ้าการแต่งกาย บรรยากาศบ้านเมืองที่นำเสนอความเป็นญี่ปุ่นสมัยก่อน และสกิลความเป็นพระเอกที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ช่วงนี้ของเรื่องเราจะได้เห็นตัวละครที่ร่วมสู้ไปกับพระเอก โดยมี “อากัตสึมะ เซ็นอิตสึ” ผู้ใช้เพลงดาบ “ปราณอัสนีบาต” ผู้ที่เก่งเสมอเวลาหลับใหล และ “ฮาชิบิระ อิโนะสุเกะ” ผู้ใช้เพลงดาบ “ปราณสัตว์ป่า” จอมก้าวร้าวราวสัตว์ป่าตามชื่อ โดยทั้งสามคนเป็นหน่วยพิฆาตอสูรในรุ่นเดียวกัน ซึ่งช่วงนี้ของเรื่องจะเป็นช่วงที่เราได้ลุ้นและเอาใจช่วยตัวละครกันแบบสุดๆ และเป็นช่วงที่ตัวละครค่อยๆพัฒนาความเก่งของตัวเองขึ้นทีละนิด ทำให้เราค่อยๆรู้จักนิสัยของตัวละครแต่ละตัวมากขึ้น
โดยรวมอนิเมะเรื่องนี้ เหมือนจะเป็นอนิเมะที่ดู ดาร์ก เครียด แต่ในเรื่องก็มีการสอดแทรกความตลก มุขต่างๆไว้บ้างในบางจังหวะ ทำให้สามารถดูได้แบบไม่เครียดเกินไป บวกกับฉากความตื่นเต้นที่เราต้องเอาใจช่วยพระเอกและน้องสาวกับผองเพื่อนอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีตัวละครอีกหลายตัวที่มีจุดเด่นทำให้น่าติดตามระหว่างรับชม ส่วนตัวเราให้คะแนนเรื่องนี้ 9/10 เลย ด้วยบรรยากาศเรื่อง เนื้อเรื่อง บวกตัวละครที่ไม่ได้เก่งจนเกินไป ทำให้ดูสนุกและน่าติดตามไม่ต้องกลัวผิดหวังกันเลยที่เดียว
หากเอ่ยถึง Netflix เชื่อได้เลยว่าหลายคนต้องรู้จักกันอย่างเเน่นอน เพราะNetflix คือเเพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งที่โด่งดังไปเกือบทั่วทั้งโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งภายในเน็ตฟลิกซ์ก็จะมีทั้งวิดีโอภาพยนตร์ การ์ตูน ซีรีส์ มากมายหลายร้อยเรื่องอยู่ในนั้นด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งประเภทวิดีโอ ที่คนไทยหลายคนยังไม่รู้จักกันอย่างเเพร่หลายมากนัก สิ่งนั้นก็คือสื่อวิดีโอที่เรียกว่าเว็บดูหนัง
อนิเมะ นั่นเองครับ ล่าสุดทาง Netflix ก็ได้นำเอาอนิเมะอีกหนึ่งเรื่อง เข้ามาเปิดฉายให้เหล่าเเฟนคลับชาวอนิเมะ เเละคนทั่วไปได้ดูกัน เป็นอนิเมะที่มีกระเเสโด่งดังมาก ในช่วงที่กำลังออกอากาศทางทีวีซีรีส์ฝั่งญี่ปุ่น ชื่อเสียงเรียงนามของอนิเมะเรื่องนั้นก็คือ Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร
การมาของดาบพิฆาตอสูรในเน็ตฟลิกซ์ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้หลายคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะจะมีโอกาสได้ดูเเละอุดหนุนผลงานที่ตนชอบเเบบถูกลิขสิทธิ์เสียที! เเละในวันนี้ผู้เขียนก็จะขอหยิบยกอนิเมะเรื่องนี้มารีวิว เพื่อช่วยเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้กับใครหลาย ๆ คนที่กำลังสับสนว่าควรเสียเวลาไปดูอนิเมะเรื่องนี้ดีหรือไม่
Kimetsu no Yaiba (ชื่อเรียกฉบับญี่ปุ่น) ดาบพิฆาตอสูร (ชื่อเรียกฉบับไทย) Demon Slayer (ชื่อเรียกฉบับสากล) คืออนิเมะที่ดัดเเปลงมาจากผลงานต้นฉบับมังงะเเนวดาร์กเเฟนตาซี ซึ่งเขียนโดยอาจารย์ โคโยฮารุ โกโตเกะ ผู้สร้างปรากฏการณ์ความโด่งดังจนใครหลายคนต่างเเห่เเหนไปซื้อมังงะเรื่องนี้กันอย่างล้นหลาม เเต่เดิมทีมังงะเรื่อง ดาบพิฆาตอสูรก็ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ
ในประเทศญี่ปุ่นอยู่เเล้ว เเต่พอถูกหยิบมาสร้างเป็นฉบับอนิเมะโดยสตูดิโอ ยูโฟเทเบิล (Ufotable) เท่านั้นเเหละครับ… ความยอดนิยมของมังงะเรื่องนี้มันพุ่งกระฉูดทะลุเพดานกันเลยทีเดียว พุ่งซะจนเเฟนมังงะชาวไทยต่างไปหาซื้อกันจนของหมดตลาด!
เข้าสู่เนื้อหารีวิวเเบบไม่สปอยล์กันเสียที ซึ่งสิ่งเเรกที่ผมจะยกมาพูดก็คืองานด้านการเล่าเนื้อเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร เป็นอนิเมะที่เล่าเนื้อเรื่องได้ตรงมาก ตรงจนใครหลายคนต่างออกมาวิพากย์วิจารณ์ว่า “มันก็เเค่อนิเมะเเนวโชเน็นทั่วไปนั่นเเหละ ไม่ได้มีอะไรเเปลกใหม่เลย” ถ้าให้ผมเถียงคงเถียงไม่ออก เพราะการเล่าเนื้อเรื่องมันเป็นเส้นตรงจริง ๆ
เเต่ก็ไม่ใช่ว่ามันเเทบจะไม่มีอะไรให้เราได้ลุ้นหรอกนะ เพราะในเเต่ละตอนเขาจะสอดเเทรกเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เหล่าคนดูได้ลุ้นไปกับตัวละครอยู่บ้าง (ช่วงต่อสู้) เเละนอกจากเรื่องของการเล่าเนื้อเรื่องที่เส้นตรงเกินไปเเล้ว สิ่งหนึ่งที่ตัวผมเองมองว่ามันเเผ่ว ๆ ไปก็คือ อนิเมะเรื่องนี้ไม่พีคไปซะหมดทุกตอน ถึงเเม้การ setting เรื่องราวจะดูโหดร้าย เเต่พอคุณดูมาตอนหลัง ๆ จะเริ่มรู้เเล้วว่า เอ๊ะ! ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเเปลกไป จากเเนวดาร์ก มาเป็นเเนวคอมเมดี้เฉยเลย ตกลงจะเอายังไงกันเเน่นะ
ต่อมาเป็นเรื่องของงานภาพเเละอนิเมชั่น ในส่วนนี้บอกได้เลยว่าทางสตูดิโอผู้ผลิตอนิเมชั่นเขาใส่ใจสุด ๆ คือเรียกได้ว่างานภาพแต่ละตอนหาจุดเผาได้ยากมาก เพราะไม่ว่าจะมองไปตรงไหนก็สวย จนอดคิดไม่ได้เลยว่า พวกเขาต้องใช้งบประมาณในการสร้างสักเท่าไหร่กันเนี่ย ไม่เเปลกเลยที่คนส่วนใหญ่หันมาชื่นชอบอนิเมะเรื่องนี้กัน ความเคมีลงตัวระหว่างการเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงเเต่สนุก ของอาจารย์ผู้เขียน บวกกับการกำกับเเละผลิตผลงานรูปเเบบอนิเมชั่นของทางค่ายสตูดิโอยูโฟเทเบิ้ล มันเป็นอะไรที่เข้ากันสุด ๆ ไปเลย ภาพสวย อนิเมชั่นลื่นไหล บวกกับการเล่าเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย ไม่เเปลกเลยที่ Kimetsu no Yaiba จะโด่งดังขึ้นมา ใครที่ยังไม่เคยดู เเนะนำให้ลองหามานั่งดูครับ รับรองว่าจะต้องติดใจเเน่นอน!
สรุปเเละให้คะเเนนรีวิว ผมขอให้คะเเนน 8/10 เเก่อนิเมะเรื่องนี้ ที่ตั้งใจหักออกไปสองคะเเนนเพราะ หนึ่งคือการเล่าเรื่องในช่วงท้าย มันดูเเผ่วเบาเกินไปหน่อย เบาซะเกือบลืมไปเลยว่านี่เรากำลังนั่งดูอนิเมะเเนวไหนอยู่กันเเน่? ส่วนอย่างที่สองที่หักออกไปเพราะการเล่าเรื่อง ใครใคร่ชอบเเนวเนื้อเรื่องเส้นตรงก็จะชอบไปเลย ส่วนใครที่ไม่ชอบการมานั่งดูอะไรที่มันกินง่าย เคี้ยวเเป๊บเดียวก็ลงท้อง อนิเมะเรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนกลุ่มนั้น เเต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดูไม่ได้เลย มันยังมีบางช่วงที่โผล่มาให้คนดูอย่างเราได้คิดวิเคราะห์อยู่บ้าง ซึ่งขอไม่สปอยล์เเล้วกัน ตัดจบง่าย ๆ ประมาณนี้ดูหนัง