รีวิวอนิเมะ ULTRAMAN

เมื่อครั้งอดีตบนโลกใบนี้ มียักษ์แห่งแสงตนหนึ่งได้มาสถิตอยู่ในร่างของมนุษย์คนหนึ่งที่ชื่อว่า Hayata Shin และคอยปกป้องโลกจากภัยคุกคาม การทำลายล้าง และความโกลาหล ที่เข้ามารุกรานพร้อมกับมนุษย์ต่างดาวและสัตว์ประหลาดยักษ์ รีวิวอนิเมะ ULTRAMAN รีวิวอนิเมะ

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ยักษ์แห่งแสงก็ได้เดินทางกลับดาวบ้านเกิด M78 ณ จักรวาลอันไกลโพ้น ส่วน ฮายาตะ ชิน มนุษย์ผู้เป็นเจ้าของร่างที่ยักษ์แห่งแสงมาสถิตก็สูญสิ้นความทรงจำที่ตนเองเกี่ยวข้องกับยักษ์แห่งแสง และกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติอย่างที่ควรจะเป็น

โลกที่พ้นจากภยันตรายร้ายแรง ก็ยังคงหมุนต่อไปอย่างสงบสุข

แต่ถึงแม้ว่าโลกจะสงบสุขแล้วก็ตามที แต่ทาง หน่วยวิทยะ หรือ หน่วยสืบสวนพิเศษทางวิทยาศาสตร์ (SSSP / Science Special Search-Party) ที่เคยร่วมมือและให้ความช่วยเหลืออุลตร้าแมนในอดีต ก็ยังคงปฏิบัติการณ์เฝ้ามองและคอยปกป้องโลกจากเหล่าอาชญากรต่างดาวที่ยังคงแฝงตัวอยู่ในโลกมนุษย์อย่างลับๆ โดยมีพิพิธภัณฑ์อุลตร้าแมนบังหน้า อนิเมะ

จนกระทั่งหลายสิบปีต่อมา ในวันหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินระเบิด ซึ่งจากการตรวจสอบของทาง หน่วยวิทยะ ก็ได้พบว่ามีสิ่งมีชีวิตลึกลับตัวหนึ่งที่ชื่อ Bemular ปรากฎตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงทำให้ทาง หน่วยวิทยะ เชื่อว่า บีมูลาร์ เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์เครื่องบินระเบิดในครั้งนี้ แต่ในเมื่อยักษ์แห่งแสงไม่อยู่คอยปกป้องโลกแล้ว ทางเดียวที่มนุษย์จะป้องกันภัยอันตรายในครั้งนี้ได้ ก็คือ การพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นมา เพื่อรับมือกับเหล่าร้ายจากต่างดาวหล่านี้ โปรเจคอุลตร้าแมน จึงถูกพัฒนาขึ้น

ทางด้าน ฮายาตะ ชิน ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นคุณพ่อลูกหนึ่งไปแล้ว เริ่มรับรู้ได้ถึงความผิดปรกติที่เกิดขึ้นกับตัวเองและตัว Hayata Shinjiro ลูกชายของเขา เช่น การมีพลังกำลังที่มากเกินกว่ามนุษย์ปรกติ เป็นต้น เขาจึงได้เข้าไปปรึกษากับ Mitsuhiro Ide (เพื่อนสนิทที่เคยทำงานร่วมกันใน หน่วยวิทยะ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการของ หน่วยวิทยะ) อนิเมะออนไลน

อิเดะ จึงตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ หน่วยวิทยะ ในปัจจุบัน และศัตรูตัวอันตรายที่ หน่วยวิทยะ กำลังจับตามองอยู่ และเล่าเรื่องราวความเกี่ยวพันในอดีตระหว่างตัว ชิน กับ อุลตร้าแมน ซึ่งนั่นก็คือที่มาของพลังเหนือมนุษย์ที่ได้มาจากจาก DNA ของอุลตร้าแมนที่แฝงอยู่ในยีนส์ของ ชิน ในขณะที่อุลตร้าแมนสถิตอยู่ในร่างของเขา จนกระทั่งยีนส์ดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดสู่ ชินจิโร่ ลูกชายของเขาทางพันธุกรรม

10 ปีผ่านไป ฮายาตะ ชินจิโร่ ได้เติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น พร้อมกับพลังพิเศษที่เหนือมนุษย์ ที่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่ามันมาจากไหน เขาพยายามปกปิดการมีอยู่ของพลังพิเศษนี้กับทุกคนรอบข้างรวมถึงคุณพ่อของเขาเองด้วย ดูอนิเมะ

แต่เขากลับหารู้ไม่ ว่าจริงๆ แล้ว คุณพ่อของเขาและ หน่วยวิทยะ ต่างหากที่กำลังเฝ้าติดตามดูพัฒนาการทางด้านพลังพิเศษในตัวของเขาอยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งวันหนึ่ง บีมูลาร์ ก็ได้เข้าโจมตี ชินจิโร่ เนื่องจากรับรู้ถึงพลังพิเศษที่แฝงอยู่ภายในตัวของเขา ที่ไม่ควรจะมีอยู่บนโลกใบนี้ ในขณะที่ ชินจิโร่ กำลังจะเพลี่ยงพล้ำ คุณพ่อของเขา ฮายาตะ ชิน ก็ได้ปรากฏตัวในชุดเกราะ อุลตร้าสูท พร้อมทั้งเปิดเผยว่า เขานี่แหละคือ อุลตร้าแมน ในตำนานยักษ์แห่งแสง ดูอนิเมะออนไลน์

เมื่อ ชินจิโร่ ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาจึงตัดสินใจที่จะสวมชุดเกราะอุลตร้าสูท เพื่อทำหน้าที่ในการต่อสู้และปกป้องโลกจากการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวตัวร้ายผู้หมายจะทำลายโลกใบนี้

แต่อุลตร้าแมนไม่ได้มีเพียงแค่ ฮายะตะ 2 พ่อ-ลูกเท่านั้น ใน หน่วยวิทยะ ยังมีผู้สวมชุดอุลตร้าสูทอีก 1 คน นั่นก็คือ Dan Moroboshi ผู้สวมชุดเกราะอุลตร้าแมน ที่มีโค้ดเนมว่า 7 (เซเว่น)

นอกจากนี้ ยังมี Seiji Hokuto เด็กนักเรียนชั่นมัธยมต้น ผู้สวมชุดเกราะอุลตร้าสูท ที่สร้างด้วยเทคโนโลยีต่างดาวอีกหนึ่งคน ซึ่งจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วงกลางซีซั่น

ชินจิโร่, โมโรโบชิ และ หน่วยวิทยะ จะสามารถต่อสู้กับเหล่าศัตรูตัวร้ายได้หรือไม่ ไปร่วมลุ้นกันนะฮะ

ความคิดเห็นหลังจากดูจบ
เป็นการหยิบอุลตร้าแมนฉบับดั้งเดิมมาตีความใหม่และต่อยอดเรื่องราวได้อย่างดีเลยแหละ การปรับเปลี่ยนจากการต่อสู้ของมนุษย์ต่างดาวร่างยักษ์ มาเป็นมนุษย์ไซส์ปรกติใส่ชุดเกราะต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว ถือว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรซ์มากๆ เลยฮะ (แต่การได้เห็นคนสวมชุดเกราะต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว มันก็ให้อารมณ์เหมือนเราดู Iron Man อยู่เหมือนกันนะฮะ)

ในส่วนของเนื้อเรื่องก็มาในโทนที่ซีเรียสจริงจัง ดูสนุก ลุ้นระทึก และน่าติดตามดี โดยเฉพาะฉากแอคชั่นต่อสู้ทำออกมาได้สนุกสุดๆ

ประเด็นหนึ่งที่อุลตร้าแมนเวอร์ชั่นนี้หยิบมาพูดถึง คือประเด็นที่ว่า อุลตร้าแมน เป็น ผู้ช่วย หรือ ผู้ทำลาย กันแน่ ซึ่งก็คล้ายๆ กับประเด็นที่พูดถึงในภาพยนตร์เรื่อง Batman V Superman: Dawn of Justice นั่นแหละฮะ เพราะในการต่อสู้กันของ อุลตร้าแมน กับ มนุษย์ต่างดาว ที่กำลังอาละวาดอยู่นั้น มันได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างมากมาย รวมถึงผู้คนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบก็ได้รับอันตรายไปด้วยเช่นกัน

ในส่วนของงานด้านภาพนี่ ต้องยกนิ้วให้เลยฮะ แสงสีและลายเส้นสวยงามมาก โดยเฉพาะชุดเกราะอุลตร้าแมนสูท ดีไซน์ออกมาได้สวยและเท่ห์มากๆ ฮะ

ส่วนเพลงในช่วง Ending Credit ก็ได้เลือกเอาเพลง Sight Over The Battle ของศิลปิน OLDCODEX ซึ่งเป็นเพลงแนว J-Rock มาใช้ เพลงมันส์ดี เข้ากับภาพรวมของเรื่องได้ดีเลยฮะ

เนื้อเรื่องของ Ultraman เล่าต่อจากตอนจบของซีรีส์อุลตร้าแมน(1966) เมื่ออุลตร้าแมนได้แยกตัวออกจากเจ้าหน้าที่หน่วยวิทยะ ฮายาตะ ชิน เพื่อเดินทางกลับสู่กาแล็กซีแห่งแสง ต่อมาโลกก็กลับมาสงบสุขอีกครั้งเพราะไม่มีมนุษย์ต่างดาวปรากฏตัวขึ้นบนโลกเลย แต่ทว่าความจริงแล้วเหล่ามนุษย์ต่างดาวไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่พวกเขาแปรเปลี่ยนสภาพตนเอง แฝงกายมาใช้ชีวิตปะปนกับมนุษย์โลก มีการสร้างเขตการปกครองของตน กลมกลืนซะจนมนุษย์แทบไม่รู้สึกตัว

ทางด้าน ฮายาตะ ชิน ผู้เคยเป็นร่างสถิตของอุลตร้าแมนก็ได้ใช้ชีวิตเรื่อยมา มีครอบครัวอย่างสงบสุข แต่ทว่าวันหนึ่งลูกชายของเขาอย่าง ฮายาตะ ชินจิโร่ ก็ได้ค้นพบว่าตัวเองมีพลังพิเศษที่หลับใหลอยู่ในตัวซึ่งได้รับสืบทอดมาจากพ่อ ชินจิโร่จึงใช้ชุดเกราะที่พัฒนาขึ้นมา ออกปฏิบัติการปกป้องผู้คน และเจ้าชุดเกราะนั้นก็ถูกเรียกว่า ‘อุลตร้าแมนสูท’

ในซีซันแรก เรื่องราวจะพาเราไปรู้จักโลกลึกลับที่ซ้อนทับอยู่ในโลกของเรา ซึ่งเป็นสถานที่อโคจรที่มีมนุษย์ต่างดาวมาปะปนมากมาย เนื้อหายังสะท้อนเรื่องราวของคนชายขอบผ่านมนุษย์ต่างดาวได้ดีเยี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นแง่มุมใหม่ที่เราไม่ค่อยเห็นจากอุลตร้าแมนฉบับปกติเท่าใดนัก ที่สำคัญแอนิเมชันยังพาเราไปรู้จักกับอุลตราแมนอีก 2 คนนั่นคือ โมโรโบชิ ดัน ผู้สวมใส่ชุดเกราะของเซเวน กับ โฮคุโตะ เซจิ ผู้สวมใส่ชุดเกราะเอซ ซึ่งแต่ละคนก็มีปมเรื่องราวที่ชวนติดตามทั้งคู่ แม้ว่าจะมีอุลตร้าแมนเพียงแค่ 3 คน แต่การค่อย ๆ ปูเนื้อหาก็ช่วยให้เราอยากติดตามไปจนถึงตอนสุดท้ายของซีซันโดยไม่รู้สึกเบื่อเลย

รีวิวอนิเมะ ULTRAMAN

ในซีซัน 2 นี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มีเหตุกา รณ์กลุ่มคนหายสาบสูญในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ฮิงาชิ โคทาโร่ นักข่าวอิสระก็ได้เริ่มสืบหาต้นตอของเหตุการณ์นี้ แต่ในขณะเดียวกันนั้น ตัวเอกอย่างฮายาตะ ชินจิโร่ กลับหา ยสาบ สูญไปพร้อมกันซะได้ โคทา โร่และเจ้าหน้าที่ หน่วยวิทยะจึงต้องออกตามหาต้นตอของความลับว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้

เรื่องราวในซีซัน 2 คือการเปิดตัวเด็กดันคนใหม่อย่างโคทาโร่นั้นก็คงไม่ผิดนัก เพราะด้วยความป๊อปปูลาร์ของตัวละคร ก็ส่งผลให้เขาได้เปิดตัวในเวอร์ชันแอนิเมชันเร็วขึ้น และเคมีของโคทาโร่ก็เข้าไปหลอมรวมกับกลุ่มตัวเอกได้อย่างแนบสนิท จนเราก็อดหลงรักตัวละครนี้ไปโดยไม่รู้ตัว

เมื่อมองถึงจุดสำคัญอย่างงานภาพ ก็ขอชมจากใจว่า Netflix ทำการบ้านมาดีมาก เพราะปัญหาของซีซันแรกคือการที่เฟรมเรทของอนิเมชันค่อนข้างกระตุก ชนิดที่ว่าบางฉากแทบอยากจะเบือนหน้าหนี ซึ่ง Netflix ก็ค่อนข้างรับฟังเสียงจากผู้บริโภค เพราะซีซันนี้ไม่มีปัญหาเรื่องภาพกระตุกให้จุกจิกกวนใจแล้ว

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *