รีวิวอนิเมะ DevilMan Crybaby

สนุกเถื่อนดิบ การรีเมคของ เดวิลแมน ในครั้งนี้เป็นการรีเมคที่น่าจดจำและตราตรึงสำหรับแฟนๆของเรื่องนี้หลายคน ถึงแม้จะลดความโหดของบางฉาก แต่ก็มีสิ่งอื่นมาทดแทนได้นั้นก็คือ การเล่นขยี้ปมของตัวละครที่แตกต่างจากเนื้อหาต้นฉบับ ทำให้ Devilman Crybaby มีเนื้อหาที่เฉพาะตัว+ รีวิวอนิเมะ DevilMan Crybaby รีวิวอนิเมะ

จุดเด่น

ความดิบเถื่อนที่โหดจริงๆในฉากต่อสู้
แสดงถึงด้านมืดของมนุษย์ได้อย่างดี
เนื้อหาที่พีคมีการหลอกคนดู
จุดด้อย

กระชับเกินไปไม่มีการปูพื้นฐานตัวละครอย่างดี
ภาพที่มีการเผาบ้าง
ตัวละครฝั่งร้ายไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไหร่

ก่อนที่เราจะมารู้จักเวอร์ชั่นรีเมคอย่าง เดวิลแมน ครายเบบี้ ที่เป็นของ Original Neftlix โดยเฉพาะ มาทำความรู้จักมังงะขวัญใจคนรุ่นเก่ายุค70’s และยังเป็นแรงบรรดาลใจทำเกิดอมังงะระดับตำนานอย่าง Evagalion และ Berserk อีกด้วย จุดเริ่มต้นของ Devilman วาดโดย อ.โกะ นากาอิ (Go Nagai) เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ลงนิตยสาร Weely Shonen Magazine เมื่อปี 1972 โดยเดวิลแมนนั้นถูกดัดแปลงทั้งสร้างเป็นหนังและอนิเมะก่อนหน้าที่จะทำเวอร์ชั่น Crybaby

ออกมา ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นฉลองครบรอบ 50 ปีของเดวิลแมน โดยเนื้อหาหลักของต้นฉบับกับล่าสุดนั้นมีลักษณะคล้ายกัน โดยเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ เด็กหนุ่มม.ปลายที่ชื่อว่า ฟูโด้ อากิระ ที่ได้พบเจอเพื่อนเก่าในสมัยเด็กของเขาที่ชื่อ เรียว ได้พาอากิระ เข้าไปพัวพันกับโลกของปีศาจ โดยให้ อากิระ ได้รับปีศาจตนหนึ่งเข้าไปในร่างกาย ชื่อของปีศาจตนนั้นคือ อาม่อน อากิระและเรียวทั้งสองจะต้องร่วมมือกันเพื่อล้างบางเหล่าปีศาจทั้งหมดบนโลกก่อนที่จะทำให้โลกของพวกเขาสู่ความโกลาหลอีกครั้งหนึ่ง สามารถคลิกรับชมผ่าน Netflix ได้ที่นี้เลย อนิเมะ

ในเนื้อหา Devilman Crybaby ภาคนี้มีการปรับเนื้อเรื่องให้กระชับจากของอย่างเวอร์ชั่นเก่ามากขึ้น โดยมีทั้งฉากฉากต่อสู้นี้ไม่ต้องพูดความรุนแรงทางเพศและเนื้อหาที่รุนแรง ยิ่งพวกถึง ถ้าหากคนไหนที่ไม่ชอบก็แนะนำให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้เลยครับ เพราะเนื้อหาเล่นกับประเด็นจิตใจของมนุษย์พอสมควรเลย โดยเนื้อหาจะค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละตอน เหมือนด่ำดิ่งไปในใต้น้ำที่ลึกไปเรื่อยๆ ด่ำดิ่งไปกับความเห็นแก่ตัวในมนุษย์ที่คิดแต่ให้ชีวิตตัวเองรอดแม้จะแลกด้วยชีวิตของคนอื่นก็ตาม สิ่งใดที่เหมือนเป็นภัยร้ายจะต้องถูกกำจัดทิ้งเหมือนได้ย้อนไปสมัยล่าแม่มดอีกครั้งหนึ่ง แต่เนื้อหาความรุนแรงของ เดวิลแมน ครายเบบี้ อนิเมะออนไลน

ทั้งเนื้อหาและภาพที่สื่อค่อนข้างเบากว่าเวอร์ชั่นเก่ามากพอสมควรเนื่องจากลง เน็ตฟลิกซ์ เลยต้องปรับเนื้อหาให้เบาลง แต่จะมีลูกเล่นอย่างอื่นที่จะมาเล่นกับความรู้สึกกับความผูกผันของตัวละครแทน ส่วนนิสัยตัวละครเรื่องนี้ค่อนข้างแบ่งกันชัดเจน มีตัวละครที่คิดแบบโลกสดใส เทา และความเป็นจริง อย่างเช่น อากิระ จะเป็นตัวละครสไตล์พระเอกเลยเรียนรู้ไปเรื่อยๆและพบกับความจริงที่โหดร้าย ทำให้ตัวเองต้องเปลี่ยนแปลงไป, มิกิ จะเป็นคนคิดแง่บวกไปหมด

เป็นตัวละครตัวเดียวที่เป็นคนประเภทนี้เลยก็ว่าได้จากเรื่องนี้ และ เรียว มองโลกตามความเป็นจริงในเรื่องนี้ เรียว เรียกได้ว่ามองตามความเป็นจริงสุดแล้วเป็นตัวละครที่มีแผนมาตั้งแต่ต้นยันจบเลย ซึ่งเรื่องคาแรคเตอร์นี้แหละที่ทำให้เรื่องนี้มันสนุก ได้ลุ้นไปกับตัวละคร และอยากเอาใจช่วยไปกับเหล่าตัวละคร

จากเนื้อหาที่ถูกตัดค่อนข้างเยอะและทำให้กระชับขึ้น การเล่าเรื่องความผูกผันของตัวละครบางตัวที่น้อยเกินไปทำให้ผู้ชมอาจจะไม่ได้มีความสนใจมากพอให้เราผูกผันไปด้วยกับ 10 ตอนที่อนิเมะเรื่องนี้ได้นำเสนอ และการเล่าเรื่องบางอย่างดูเร็วไปหมดในบางฉากอาจจะทำให้ไม่ค่อยหวือหวาเท่าที่ควรสักเท่าไหร่ ตัวร้ายที่ไม่มีความน่าจดจำเลยทั้งที่มันเหมือนจะมีปมเกี่ยวกับตัวเอกแต่ใช้แล้วทิ้ง และประเด็นบางอย่างในเรื่องที่ยังไม่เปิดเผยที่มาและอดีตของ อาม่อน

รีวิวอนิเมะ DevilMan Crybaby

ส่วนถ้ามีจำนวนตอนที่มากกว่านี้และเก็บลายละเอียดพวกนี้หมดละก็บอกได้เลยว่ามัดใจคนดูส่วนใหญ่ได้อย่างแน่นอน ส่วนถ้าใครอยากติดตามแบบต้นฉบับควรติดตามจากมังงะได้เลย ซึ่งปัจจุบันอาจจะหนังสือหายากแล้ว และลิขสิทธิ์ในเมืองไทยก็ยังไม่มีอีกด้วย มีแค่ค่ายพิมพ์เถื่อนในสมัยก่อนที่นำมาทำ ส่วนสไตล์งานภาพแตกต่างจากต้นฉบับอย่างแน่นอนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่และมีความโหดดิบมากขึ้น ปีศาจที่โผล่ออกมามีความน่าเกลียดน่ากลัวอย่างชัดเจน บวกกับงานภาพแนวนี้ที่เข้ากับตัวปีศาจบอกเลยว่าน่ากลัวมากๆ ถึงงานมันจะเผาบ้างก็เถอะตามสไตล์เมะญี่ปุ่นที่ต้องมีกัน

โดยรวมๆเรื่องนี้ถ้าใครต้องความดิบเถื่อนไม่สนใจอะไรก็ควรมาดูเลย มันดีมากๆถึงแม้อาจจะไม่ได้ดีที่สุดก็ตาม ทั้งภาพ ทั้งฉาก และเนื้อหา เมะแนวนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆกันนะ ส่วนถ้าใครอินตามเรื่องมันจะหดหู่พอสมควรในหลายๆฉาก ส่วนคนที่ไม่ต้องการแนวนี้หรือเครียดจากงานมีภาวะทางจิตใจควรเลี่ยงเรื่องนี้เลย เพราะมันจะทำให้จิตตกได้ทั้งเรื่อง เลยไม่แนะนำให้ดูเรื่องนี้เลย ดูอนิเมะ

ฟุโด อากิระ และ อาสึกะ เรียว เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก อากิระมีนิสัยค่อนข้างปวกเปียก พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เล็กจึงไปอาศัยอยู่กับครอบครัว มิกิ วันหนึ่ง เรียว กลับมาพา อากิระ ไปงานปาร์ตี้มั่วยาแซ๊บบาร์ท (Sabbath) เพื่อพิสูจน์ว่าปีศาจมีจริง

เป็นการ์ตูนเนื้อหาหนัก ติดเรท มีฉากโป๊ และความรุนแรง ตอนดูไม่คิดว่าเนื้อหาจะหนักขนาดนี้ มีการใช้โซเชียลมีเดียด้วย บทปรับให้ทันสมัยดี ตอนดูเราเอาใจช่วยและลุ้นมากๆ คนที่เราคิดว่าไม่ดีสุดท้ายเป็นคนที่คอยช่วยเราจนถึงที่สุด คนที่เราคิดว่าเป็นคนดีสุดท้ายเป็นคนทำร้ายเราได้อย่างถึงที่สุดเหมือนกัน ดูจบอยากถามคนเขียนว่าจิตใจทำด้วยอะไร 555555 ทำไมใจร้ายกับตัวละครได้ขนาดนี้ ดูอนิเมะออนไลน์

รีวิวอนิเมะ DevilMan Crybaby

ลายเส้นส่วนใหญ่สวย แต่มีบางช่วงที่คิดว่ามันขาดรายละเอียดไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วชอบมากกว่าเมื่อเทียบกับลายเส้นเวอร์ชั่นเก่าแล้ว

ส่วนนี้อาจมีสปอยปนมาบ้าง ถ้ายังไม่ได้ดูและไม่อยากเสียอรรถรสก็ข้ามไปดูคะแนนได้เลย ขอบอกว่าก่อนดูรู้สปอยมาบ้าง เราเลยยังไม่ค่อยพีคกับจุดที่ควรพีค ยังดีที่รู้สปอยมาไม่หมด ไม่อย่างงั้นคงขาดอรรถรสยิ่งกว่านี้ ตัวละครที่ชอบมากคือ เรียว เขารักอากิระมาก ตอนจบเราร้องไห้ก็เพราะเรียวนี่แหละ สงสารนางที่สุด เป็นคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกอันซับซ้อนของมนุษย์เลย แต่เขาก็รักของเขาไงถึงอยากให้อากิระมาอยู่ข้างๆ Crybaby

ควรจะหมายถึง อากิระ ที่ขี้แย ร้องไห้ให้คนที่อ่อนแอ ร้องไห้ให้มนุษย์ แต่สำหรับเรา Crybaby คงจะหมายถึงเรียวในตอนสุดท้าย ที่ cry like a baby นี่แหละ จากที่เจอกระทู้ในพันทิป เขาบอกว่าคู่นี้เป็นแรงบันดาลใจส่วนนึงให้ อ.มิอุระ วาดเบอร์เซิร์ก – พระเอกสีดำผู้บ้าคลั่ง คู่กับ ตัวร้ายสีขาวผู้งดงาม – ประโยคนี้ ชัดเจน บอกทุกอย่างเลย

เชื่อว่าตอนนี้ใครที่ใช้บริการ Netflix น่าจะได้รับชมอนิเมะเรื่อง Devilman Crybaby กันไปแล้ว ซึ่งกระแสตอบรับของมันถือว่ายอดเยี่ยมและเป็นอนิเมะที่ถูกกล่าวขานกันในซีซั่นแรกของปี 2018 เลยทีเดียว แต่ใช่ว่าจะมีคนชื่นชอบมันทั้งหมด ศิลปินและนักวิจารณ์อนิเมะคุณ Kurose Youhei ดูจะไม่ปลื้มกับอนิเมะเรื่องนี้เท่าไรนัก

โดยคุณ Kurose ได้กล่าวอย่างรุนแรงผ่าน Twitter ว่าอนิเมะเรื่อง Devilman Crybaby ว่า “เป็นปัญหายิ่งกว่า” Pop Team Epic เสียอีก เขากล่าวว่าผู้ชมส่วนใหญ่ที่ยกย่องงานของ Yuasa Masaaki (ผู้กำกับผลงาน Devilman Crybaby ชิ้นนี้) มองในมุมด้านเดียวว่านั่นคือ “อนิเมะระดับสากล” หรือ “อนิเมะที่พร้อมแข่งขันในตลาดโลก”

Devilman crybaby อนิเมะที่ดูแล้วต้องน้ำตาไหล - ANIMETH-AREA

คำว่า サブカル (สับคัล) ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายใกล้เคียงคำว่า Subculture ในภาษาอังกฤษ แต่มีนัยยะอื่นแฝง หัวข้อ “โอตาคุ VS Subculture” จึงเป็นที่ถกเถียงกันมานานในญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี 1990 ความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าวทำให้มีความพยายามที่จะแยกแยะคำว่า “Otaku Culture” ออกจาก Subculture กระแสหลักที่ไม่ได้หมายถึงวัฒนธรรมความเป็น Otaku เลย

ในความเห็นของคุณ Kurose หากย่อยแนวคิดดังกล่าวแล้วจะเหลือแนวคิด 2 อย่าง คือ “อนิเมะแนวโอตาคุ = อนิเมะแนวญี่ปุ่น” และ “อนิเมะแนว Stylish Subculture = อนิเมะป๊อบระดับสากลโลก” คุณ Kurose อธิบายว่าเหตุผลที่คุณ Yuasa ได้รับหน้าที่ให้ทำอนิเมะเรื่องนี้เพราะคนกำลังเข้าใจผิดว่าอนิเมะแนว Subculture (ซึ่งคนทั่วไปมองว่าคืออนิเมะระดับสากล) จะประสบความสำเร็จในระดับโลกมากกว่าอนิิเมะแนวโอตาคุที่ประสบความสำเร็จแค่ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้คุณ Kurose กล่าวว่า Devilman Crybaby เป็นเพียงแค่อนิเมะแนว Stylish Subculture เท่านั้น ไม่ใช่อนิเมะระดับสากลโลกอย่างที่คนในสังคมเข้าใจ ทำให้คุณ Yuasa ออกมาโต้ตอบว่าไม่เห็นด้วย

สรุปแล้ว คุณ Kurose มองว่าการประเมิน Devilman Crybaby ว่าเป็นอนิเมะระดับสากลนั้น เป็นเพียงมุมมองในแบบ “โรคคลั่งชาติ” ของคนญี่ปุ่นเท่านั้นเอง อนิเมะเรื่องนี้แท้จริงแล้วล้มเหลวในการแสดงเอกลักษณ์ของอนิเมะญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิง ทั้งเนื้อเรื่อง , สคริปต์ และโปรดักชั่นต่างก็ทำได้แย่ เผลอๆอนิเมะรอบดึกบางเรื่องยังทำได้ดีกว่านี้ด้วยซ้ำ

รีวิวอนิเมะ DevilMan Crybaby

ซึ่งการวิจารณ์ที่รุนแรงนี้ทำให้คุณ Yuasa ต้องออกมาทวิตข้อความตอบโต้

“คุณมีอิสรภาพในการแสดงความคิดเห็นของตัวเอง แต่ถ้าเป็นผมๆจะไม่มามัวหาจุดผิดของความคิดเห็นคนอื่น ถ้าคนใกล้ชิดหรือคนรู้จักของผมถูกติงมากขนาดนี้ผมก็ต้องค้าน เพราะถ้าผมคิดว่าเขาทำได้ดีก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องออกมาพูดจาต่อว่า เป็นผมคงไม่อยู่เฉยแน่นอน”

หลังการตอบโต้กัน คุณ Kurose ก็แสดงความขอบคุณต่อคำตอบของคุณ Yuasa แต่เขายังยืนกรานความเห็นเดิมของตัวเอง เขากล่าวถึงคนที่วิจารณ์ความเห็นของเขาในเรื่องความขัดแย้ง “Otaku vs Subculture” โดยอธิบายว่าเขาเพียงต้องการแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า “วัฒนธรรมมากมายของญี่ปุ่นสามารถถูกกลืนหายไปได้โดยไม่ตั้งใจ” ถ้ามัวแต่ใส่ใจกับ “วัฒนธรรมนอกประเทศ” มากจนเกินไป

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *