รีวิวอนิเมะ แบล็คโคลเวอร์
Black Clover แบล็กโคลเวอร์ เรื่องนี้อาจจะคุ้นหูคุ้นตากันหลาย ๆ คนมาแล้วแต่ก็เชื่อว่าหลายคนที่ยังไม่เคยดูส่วนตัวผมก็ด้วยเห็นเรื่องนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่เคยคิดจะดูเลย แต่พอได้มาดูจริง ๆ แล้วมันสนุกอยู่นะครับ ก็ไม่เข้าใจว่าอนิเมะเรื่องนี้ทำไมคนถึงไม่ค่อยดูกันวันนี้เลยหยิบเอามารีวิวความสนุกให้ได้อ่านกัน และเรื่องก็สารมารถดุได้ยาว ๆ เลยถ้าเพิ่งจะเริ่มดูเพราะมีเป็นร้อยตอน (ฮา) เรื่องราวของเด็กกำพร้า อัสต้าและยูโน ที่อาศัยอยู่ที่โบสถ์ที่ชนบทแห่งหนึ่ง บนโลกนี้ทุกคนล้วนมีพลังเวทกันทุกคน แต่อัสต้ากับไม่มีพลังเวทอะไรเลยแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาท้อหรือยอมแพ้ที่จะทำตามความฝัน ถึงแม้จะโดนคนอืนหัวเราะว่าไม่มีพลังเวท !! รีวิวอนิเมะ แบล็คโคลเวอร์ รีวิวอนิเมะ
แนะนำตัวละครหลัก
อัสต้า – เด็กหนุ่มอายุ 15 ที่มีความกล้าแต่ไม่มีพลังเวท เขาเป็นคนที่ไม่มีพลังเวทเลย แต่เขาก็ฝึกฝนตัวเองอยู่ตัวถึงแม้จะใช้เวทไม่ได้ ความฝันของเขาคือการได้เป็นจักรพรรดิเวทมนตร์มาตั้งแต่เด็ก กริมัวร์ เป็นใบโคลเวอร์ 5 แฉกซึางหมายความว่า มีปีศาจอาศัยอยู่ อาวุธจองอัสต้าเป็นดาบเล่มแรก จะเป็นเล่มใหญ่เกือบเท่าตัว สามารถสะท้อนเวทกับไปได้
ยูโน – เด็กหนุ่มหน้าหล่อตัวสูงผมดำที่ดูเพียบพร้อมเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาพร้อมกับ อัสต้า สามารถใช้พลังเวทมีนิสัยนิ่ง ๆ ดูน่าหมั่นไส้จริง (ฮา) เขาเองก็อยากจะเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์เหมือนกับอัสต้า ทั้ง 2 จึงเป็นขู่แข่งกัน กริมัวร์ของยูโนเป็น โคลเวอร์ 4 แฉกซึ่งหายากมากพลังเวทของยูโนเป็นสายลม
เรื่องย่อ เรื่องราวของเด็กหนุ่ม อัสต้าและยูโน อายุ 15 ปี เมื่อได้ได้กริมัวร์เป็นของตัวเองกันแล้วจึงมุ่งหน้าไปสู่เมืองโคลเวอร์ เพื่อที่จะไปสอบเข้าหน่วยอัศวินเวทมนตร์ และตามความฝันสู่จักรพรรดิเวทมนตร์ ถึงแม้อัสต้าจะไม่มีพลังเวทก็สามารถสอบผ่านและเข้าหน่อยกระทิงดำได้สำเร็จ
วันนี้ผมก็ได้ไปเจอกับการ์ตูนเรื่องนึงใน NETFLIX ซึ่งแว่บแรกที่เห็นก็รู้สึกว่ามันคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอลองนึกดี ๆ อ๋อ!! นี่มัน 1 ในตัวละครจากเกม JUMPFORCE ที่ผมไม่รู้จักนี่นา ซึ่งมารู้ทีหลังว่าการ์ตูนเรื่องนี้ชื่อว่า “Black clover” (ฮา) เพราะฉะนั้นนี่ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะลองรู้จักกับการ์ตูนเรื่องนี้ดู ซึ่งพอดูจบก็ต้องขอมาเขียนรีวิวความรู้สึกให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันหน่อยล่ะงานนี้!!
เรื่องย่อ
อัสต้า และ ยูโน เด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งไว้กับโบสถ์ของอาณาจักรโคลเวอร์ โดยทั้ง 2 คนโตมาด้วยเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือการที่จะได้เป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ (ผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของผู้ใช้เวท) แต่ทั้ง 2 กลับมีความต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยที่ ยูโน สามารถใช้พลังเวทได้อย่างทรงพลัง ส่วน อัสต้า นั้นไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เค้าก็ไม่หมดหวังหมั่นฝึกฝนร่างกายเป็นประจำ เพื่อที่อายุ 15 เค้าจะได้มีโอกาสรับ กรีมัวร์ คัมภีร์ที่จะดึงเอาศักยภาพของผู้ใช้เวทนั้น ๆ ออกมาได้ ดูอนิเมะ
แต่พอถึงเวลาจริงเค้ากลับไม่ถูกรับเลือกโดยกรีมัวร์ ต่างจาก ยูโน ที่ได้กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 4 แฉก ที่เป็นของอดีตจักรพรรดิเวทรุ่นก่อน แต่ทว่าเมื่อถึงคราวคับขันชีวิตของอัสต้ากำลังตกอยู่ในอันตรายจู่ ๆ ก็มี กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 5 แฉก ปรากฏออกมาพร้อมกับดาบสีดำอันใหญ่เท่าคน ซึ่งโครเวอร์ใบที่ 5 นั้นหมายถึงปิศาจนั่นเอง!!! และแล้วเรื่องราวการผจญภัยเพื่อเป็นจักพรรดิเวทมนตร์ของ อัสต้า และ ยูโน ก็ได้เริ่มต้นขึ้น อนิเมะออนไลน
พอดูการ์ตูนเรื่องนี้จบผมก็นึกย้อนกลับไปถามตัวเองว่าทำไมผมถึงชอบดูวันพีช นารูโตะ หรือดราก้อนบอล มันคือสูตรสำเร็จการ์ตูนแนว JUMP สมัยก่อน ที่จะให้คนดูได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครเอกที่เป็นเด็ก คอยอยู่เป็นเพื่อนหมอนี่ คอยเอาใจช่วยให้ฝีมือมันเทพขึ้นสักที อยากเห็นสกิลใหม่ ๆ ของตัวเอก
ด้วยภาพและกราฟฟิกของตัวอนิเมะไม่ได้ทำออกมาดูยากมาก และกราฟฟิกเองก็ไม่ขี้เหร่ การอนิเมทก็ดูลื่นไหลสบายตา เสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ถือเป็นมาตรฐานของอนิเมะสมัยนี้อยู่แล้ว แค่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถือว่าใช้ได้
แต่ถึงอย่างนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็มีข้อเสียที่ไปติดอยู่ตรงการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าจนทำเอาเราดูไปง่วงไปหลายต่อหลายตอน การต่อสู้หรือฉากแอ็กชันเองถึงจะทำกราฟฟิกออกมาได้สวย แต่ก็ไม่ค่อยสะใจหรือมันเท่าที่คิด ออกจะจำเจซะด้วยซ้ำ อารมณ์แบบตัวร้ายปล่อยพลังใส่พระเอกจนเสียท่า แล้วก็พูดจาเหยียดหยามพระเอก พระเอกของขึ้นควักดาบฟันจบ
ตัวร้ายในเรื่องนี้ก็ถือว่าขาดเสน่ห์อย่างแรง ดูจบแล้วทิ้งไว้สักอาทิตย์นึงคุณอาจจะลืมหน้าตามันไปเลยก็ได้ (ฮา) ตัวเนื้อเรื่องเองก็เดาง่าย คือสกิลพระเอกในเรื่องนี้โกงมาก เวลาที่พระเอกเจอเรื่องที่คับขันกำลังแย่ก็จะต้องมีเหตุการณ์ให้ได้พลังใหม่ ไม่ก็ต้องมีพวกพ้องมาช่วยให้รอดพ้นตลอด ซึ่งจะอยู่ลูปนี้ไปสักพักใหญ่ ๆ เลย ดูอนิเมะ
เสียงพากย์เองก็แอบเป็นปัญหาอยู่เล็ก ๆ เสียงของ อัสต้า ซึ่งเป็นตัวละครที่ชอบแหกปาก บวกกับเสียงที่แหลมเวลาดูใส่หูฟังไปนาน ๆ เข้าอาจทำให้คุณรำคาญหรือไม่ก็ปวดแก้วหูได้
ผมคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบเสพเนื้อเรื่องที่เข้มข้น มีหักมุมไปมา หรือฉากที่รุนแรงเพื่อความมันสะใจเล็ก ๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง มีศัตรูลูกกระจ๊อกอ่อน ๆ โผล่มาสู้กับพระเอกเพื่อที่พระเอกจะได้เติบโตและเก่งขึ้นก่อนจะไปตบลาสบอส การ์ตูนเรื่องนี้ผมเชื่อเลยว่าหากดูตอนอยู่มัธยมต้นมันคงจะสนุกมากแน่ ๆ เพราะฉะนั้นหากมีลูกมีหลานการจะเปิดการ์ตูนเรื่องนี้ให้ดูก็เป็นความคิดที่เข้าท่ามาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่ได้เห็นตัวการ์ตูนแบกดาบใหญ่อันเท่าคนสู้กับศัตรูคงจะให้ความรู้สึกเท่มากน่าดู (ฮา)
Black Cover มังงะจากญี่ปุ่นที่มีชื่อในภาษาไทยว่า “โคลเวอร์สีดำ” ได้รับกระแสนิยมเป็นอย่างมาก หากใครที่ชื่นชอบ และหลงใหลในวัฒนธรรมของการ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่น แบล็คโคลเวอร์ เป็นการ์ตูนที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี และการันตีด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ดูอนิเมะออนไลน์
Black Cover จากมังงะสู่อนิเมะใน Netflix
แบล็คโคลเวอร์ เป็นมังงะสัญชาติญี่ปุ่นประเภทผจญภัยแฟนตาซี (Fantasy Adventure) ที่ถูกรังสรรค์ความสนุกโดยนักเขียนชื่อดังอย่าง ยูกิ ทาบาตะ (Yuki Tabata) ซึ่งมีการตีพิมพ์ครั้งแรกใน โชเน็งจัมป์ (Shonen Jump) นิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เคยตีพิมพ์มังงะที่โด่งดังมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คิเมะสึ โนะ ไยบะ (Kimetsu No Yaiba) ดาบพิฆาตอสูร, ฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ (Hunter x Hunter), วันพีช (one Piece) เป็นต้น
จากหนังสือการ์ตูนชื่อดังก็ได้มีโอกาสลงแพลตฟอร์มสตรีมมิง วิดีโอยอดฮิตที่มีการให้บริการทั่วโลก เนื่องด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น น่าติดตาม อีกทั้งยังมีความคิดสร้างสรรค์ แฟนตาซีสุด ๆ โดยเนื้อเรื่องของแบล็คโคลเวอร์จะเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เป็นหลัก ซึ่งจุดแข็งของอนิเมะเรื่องนี้คือ การวางโครงเรื่องที่หักมุม และย้อนแย้งกับคอนเซปต์หลัก ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมอย่างเรารู้สึกเอาใจช่วยตัวเอกเป็นอย่างมาก
ย้อนแย้งคอนเซปต์หลัก แต่ลงตัวอย่างมีเสน่ห์
คำบรรยายที่ทาง Netflix ได้ให้ไว้สำหรับอนิเมะเรื่อง “แบล็คโคลเวอร์” คือ เด็กกำพร้าสองคนที่เติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง ต้องกลายเป็นคู่แข่งช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าใครในดินแดนแห่งนี้หลาย ๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยว่า “คำบรรยายข้างต้นนั้นขัดแย้งกับคอนเซปต์หลักอย่างไร? ในเมื่อเนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับเวทมนตร์” สิ่งที่ย้อนแย้งคือ อัสต้า (Asta) พระเอกของเรานั้นมีความฝันที่อยากจะเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับ ยูโน (Yuno) ซึ่งสามารถใช้พลังเวทมนตร์ได้อย่างชำนาญ
โดยอัสต้า นั้นไม่มีพลังเวทมนตร์เลยสักนิดเดียว จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง ซึ่งในจุดนี้ทำให้เนื้อเรื่องของแบล็คโคลเวอร์ดำเนินไปได้อย่างกลมกล่อม มีเสน่ห์ และทำให้ผู้ชมคอยลุ้นเอาใจช่วยพระเอกอยู่อย่างเสมอ
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ใกล้จะถึง ใครที่กำลังไม่รู้ว่าจะนอนอยู่บ้านทำอะไร การหยิบยกหาอนิเมะน้ำดีอย่าง แบล็คโคลเวอร์ มานั่งดูก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะอนิเมะเรื่องนี้สามารถดูได้อย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังทำให้ผู้ชมอย่างเราคอยเฝ้าดู และให้กำลังใจอัสต้า ตัวเอกได้ทำตามความฝันให้สำเร็จอีกด้วย
การ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สนุกอีกเรื่องที่ผมอยากให้ได้ดูกันนะครับ ทั้งภาพและเสียงถือว่าดีมาก ๆ และเนื้อเรื่องก็ดูไม่น่าเบื่อหลายคนที่ยังไม่เคยดูถ้าได้ดูรับรองว่าติดแน่นอน นั่งดูกันได้ยาว ๆ สำหรับหลายร้อยตอนแบบนี้ ก็ถือว่ายังชิวๆ ไม่หวั่น
พอดูการ์ตูนเรื่องนี้จบผมก็นึกย้อนกลับไปถามตัวเองว่าทำไมผมถึงชอบดูวันพีช นารูโตะ หรือดราก้อนบอล มันคือสูตรสำเร็จการ์ตูนแนว โชเน็นจั้มป์ สมัยก่อน ที่จะให้คนดูได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครเอกที่เป็นเด็ก คอยอยู่เป็นเพื่อนหมอนี่ คอยเอาใจช่วยให้ฝีมือมันเทพขึ้นสักที อยากเห็นสกิลใหม่ ๆ ของตัวเอก
ด้วยภาพและกราฟฟิกของตัวอนิเมะไม่ได้ทำออกมาดูยากมาก และกราฟฟิกเองก็ไม่ขี้เหร่ การอนิเมทก็ดูลื่นไหลสบายตา เสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ถือเป็นมาตรฐานของอนิเมะสมัยนี้อยู่แล้ว แค่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถือว่าใช้ได้
แต่ถึงอย่างนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็มีข้อเสียที่ไปติดอยู่ตรงการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าจนทำเอาเราดูไปง่วงไปหลายต่อหลายตอน การต่อสู้หรือฉากแอ็กชันเองถึงจะทำกราฟฟิกออกมาได้สวย แต่ก็ไม่ค่อยสะใจหรือมันเท่าที่คิด ออกจะจำเจซะด้วยซ้ำ อารมณ์แบบตัวร้ายปล่อยพลังใส่พระเอกจนเสียท่า แล้วก็พูดจาเหยียดหยามพระเอก พระเอกของขึ้นควักดาบฟันจบ